THAI CLIMATE JUSTICE for All

ความเป็นธรรมทางภูมิอากาศในห้องเรียน (ตอนจบ)

เขียนโดย Ryan Cho
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2014
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
อ้างอิง Climate Justice in the Classroom It connects everything together

ในปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่เราจะเริ่มศึกษาเกี่ยวกับความเป็นธรรมทางภูมิอากาศเสียทีทั้งสำหรับตัวผมเองในฐานะที่เป็นผู้พัฒนาหลักสูตรและสำหรับครูผู้สอน คนจำนวนมากคิดว่าความเป็นธรรมทางภูมิอากาศเป็นเรื่องเกี่ยวกับจริยธรรมในยุคสมัยของเรา อย่างไรก็ตาม ความเป็นธรรมทางภูมิอากาศก็ยังเป็นหัวข้อที่คนทั่วไปไม่ชำนาญ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความเป็นธรรมทางภูมิอากาศให้แก่ครูผู้สอนในเมืองของเรา ผมได้ถามพวกเขาว่า “มีใครบ้างที่คุ้นเคยกับความเป็นธรรมทางภูมิอากาศและมั่นใจพอที่จะอธิบายความถ้าถูกถามได้บ้าง ?” ครูผู้สอนจำนวนร้อยกว่าคนยกมือ ผมถามต่อว่า “แล้วมีใครบ้างที่คุ้นเคยและมั่นใจพอที่จะอธิบายได้ว่าความเป็นธรรมทางภูมิอากาศคืออะไร ?” จำนวนมือที่ยกลดลงเหลือไม่ถึงสิบทั้งที่คนเหล่านี้เป็นครูผู้ที่คุ้นเคยและใช้ชีวิตอยู่กับประเด็นความเป็นธรรมทางสังคมอยู่ตอลดเวลา ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการสอนเรื่องความเป็นธรรมทางภูมิอากาศในห้องเรียน แต่ยังไม่รู้ว่าจะสอนอย่างไรต่างหาก

ในเวลาเดียวกัน คนจำนวนมากเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของหัวข้อนี้ และการรณรงค์ในเรื่องนี้ก็เพิ่มจำนวนขึ้น ในเดือนกันยายน ขบวนการ People’s Climate March ของเมืองนิวยอร์คนำประชาชนจำนวนราว 311,000 คนออกมาเดินขบวนเรียกร้องความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ ตามมาด้วยการรณรงค์แบบเดียวกันอีก 2,546 ครั้งใน 162 ประเทศ การรณรงค์ในนิวยอร์คมีขนาดเทียบเท่ากับสมัยที่มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ออกมาเดินขบวนในวอชิงตันในปี 1960 ซึ่งเป็นการเดินขบวนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 ของอเมริกา

การเดินขบวนเพื่อความเป็นธรรมทางภูมิอากาศดังกล่าวเรียกร้องให้หยุดใช้พลังงานฟอสซิลและโปรโมทข้อดีของเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในฤดูหนาวที่กำลังมาถึงนี้ จำนวนคนแคนาดาที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรมสะอาดมีจำนวนมากกว่าแรงงานที่ทำงานในเหมืองทรายน้ำมันใน Alberta ไปแล้ว และเมื่อผู้คนมีการรับรู้ในเรื่องนี้มากขึ้น มันจึงถึงเวลาแล้วที่ครูผู้สอนจะเริ่มศึกษาความเป็นธรรมทางภูมิอากาศร่วมกับนักเรียนของตน ในการเดินขบวนของมาร์ติน ลูเธอร์ คิง มีคนอเมริกันเพียง 23% ออกมาสนับสนุน เมื่อเทียบกับในวันนี้ที่ชาวรัฐ British Columbia จำนวนถึง 86% ออกมาสนับสนุนนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อนและเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ดีทั้งกับคนและสิ่งแวดล้อม ในวันนี้เรามีโอกาสสำหรับคนรุ่นใหม่และรุ่นอื่นๆทุกคนในการมีส่วนร่วมกับหัวข้อนี้และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

ในขณะเดียวกัน บริษัทพลังงานก็ทำการล็อบบี้อย่างไม่หยุดหย่อนที่จะลดทอนความสำคัญของประเด็นปัญหาเรื่องโลกร้อนและความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ หนึ่งในวิธีการได้แก่การหาช่องทางเข้ามามีอิทธิพลในการกำหนดหลักสูตรและเนื้อหาการเรียนการสอนในโรงเรียน “Canadian Association of Petroleum Producers (CAPP)” ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศได้จับมือกับสมาคม Royal Canadian Geographic Society เพื่อพัฒนาหลักสูตร ‘Energy IQ’ เพื่อใช้สอนในโรงเรียนที่ออกแบบมาเพื่อ ‘สอนชาวแคนาดาเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น การผลิตพลังงานหลากหลายรูปแบบ เทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ ๆ กฎหมาย และอื่น ๆ อีกมาก’

นอกจากนี้บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติยังให้การสนับสนุนการประชุมเชิงวิชาการและงานพัฒนาบุคลากรในรัฐ British Columbia ทำให้ครูหลายคนแสดงความกังวลที่ทุนจำนวนมากกำลังถูกหว่านลงมาเพื่อโปรโมทวิสัยทัศน์ที่สนับสนุนกลุ่มผลประโยชน์และลดทอนความสำคัญของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและยั่งยืนในระยะยาว ความกังวลของครูผู้สอนเหล่านี้เองที่ทำให้หลักสูตรความเป็นธรรมทางภูมิอากาศเกิดขึ้น อย่างเช่นครูจากเมืองเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการด้านพลังงานของรัฐเรียกร้องให้เกิดสมดุลของการใช้ทรัพยากรและให้ยอมรับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่ว่าภาวะโลกร้อนเกิดจากการกระทำของมนุษย์

เสียงตอบรับต่อหลักสูตรความเป็นธรรมทางภูมิอากาศนั้นดีจนน่าประหลาดใจ และมันทำให้ผมได้รับเชิญเพื่อไปนำเสนอหัวข้อความเป็นธรรมทางภูมิอากาศในการประชุมครูท้องถิ่น 4 ครั้งใน 4 พื้นที่ ในการประชุมดังกล่าว ครูหลายคนได้เสนอที่จะแปลการบรรยายของผมเป็นภาษาฝรั่งเศสให้ฟรีเพื่อให้ครูในโรงเรียนที่พูดภาษาฝรั่งเศสเข้าใจได้ด้วย

เมื่อทุกคนร่วมมือกันเช่นนี้ ครูผู้สอนก็จะสามารถช่วยเด็กๆสร้างสะพานเชื่อมโยงระหว่างโลกที่เราต้องการและโลกที่เป็นไปได้ นักเรียนของเราทุกคนไม่ว่าความฝันของพวกเขาจะเป็นอะไรก็ตาม บ้างก็อยากเป็นหมอ บ้างก็อยากเป็นทนายความ วิศวกร ผู้ประกอบการ ช่างไม้ ช่างก่อสร้าง หรือเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านเฉยๆก็ตาม ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เพื่อโลกที่ดีกว่าเมื่อพวกเขาตระหนักถึงศักยภาพของอนาคตที่เป็นธรรมทางภูมิอากาศ ซึ่งหน้าที่ของครูได้แก่สำรวจประเด็นนี้ร่วมกับนักเรียนเพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ของตนเองในการรณรงค์ ในวันนี้ ผู้คนนับพันกำลังทำงานร่วมกับกลุ่มรณรงค์เพื่อความเป็นธรรมทางภูมิอากาศและไล่ตามความฝันเดียวกับที่บรรพบุรุษของเราเคยฝันเมื่อย้ายมาประเทศนี้ คือการมีชีวิตที่ดีกว่าในโลกที่เป็นธรรมที่ควรค่าแก่การต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา แล้วคุณล่ะจะมาร่วมกับเราไหม ?

Scroll to Top