THAI CLIMATE JUSTICE for All

คุยกับเด็กๆ เรื่องภาวะโลกร้อน

เขียนโดย Nicole Castañeda
วันที่ 9 กันยายน 2024
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
อ้างอิง Discussing climate change with the next generation

ตอนที่ฉันเข้าโปรแกรมฝึกงานกับ Stone Living Lab ในช่วงหน้าร้อน ฉันได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนเด็กๆ  ซึ่งไม่ใช่งานที่ถนัดเลย แม้ว่าฉันจะเคยเป็นที่ปรึกษาค่ายฤดูร้อนมาก่อนก็ตาม แต่การสอนในชั้นเรียนนี่เป็นเรื่องที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นชั้นเรียนที่ไม่มีการเซ็ตโครงสร้างหลักสูตรหรือตารางเรียนไว้ แต่เปิดโอกาสให้ผู้สอนมีอิสระในการสรรสร้างบรรยากาศการเรียนการสอนที่ไม่น่าเบื่อหรือเอาแต่ท่องจำ เป็นการสอนที่ไม่มีผิดไม่มีถูก

โดยมากการเรียนการสอนจะได้รับการออกแบบโดยเด็กๆ เอง ไม่มีการบังคับให้ต้องเข้าเรียน ดังนั้นครูผู้สอนจึงไม่จำเป็นต้องบังคับให้เด็กตั้งใจฟังในสิ่งที่ตนสอน บรรยากาศเช่นนี้ทำให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากกว่าที่จะเป็นการสื่อสารทางเดียว เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อเป้าหมายโดยการให้เด็กๆ เล่าให้เราฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาที่มีต่อหัวข้อนั้นๆ เพื่อให้เกิดการตั้งใจฟังอย่างแท้จริง

เด็กๆ ที่เราสอนมาจากหลายช่วงวัย ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 4-8 ปี ซึ่งศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลและประถม ฉันชอบทำงานกับเด็ก เพราะพวกเขาอยู่ในวัยที่ชอบที่จะเล่าความคิดเห็นและประสบการณ์ของพวกเขาให้เราฟัง และการอบรมให้ความรู้แก่พวกเขาก็ทำให้ฉันมีความสุข เราสามารถให้การศึกษาแก่พวกเขาโดยชี้ให้เห็นว่าวิชาการเป็นเรื่องน่าสนุกและไม่มีคำตอบไหนเลยที่ผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ตราบเท่าที่พวกเขาพยายามตอบ และหวังว่าพวกเขาจะได้ความรู้จากห้องเรียนติดตัวไปใช้ในอนาคต

งานของฉันเป็นงานที่เกี่ยวกับการสอนในประเด็นปัญหาโดยไม่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก คำศัพท์อย่างโลกร้อน ภาวะน้ำทะเลเป็นกรด และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกนั้นเป็นคำที่ทำให้เด็กกลัว ดังนั้นเราจึงต้องหาสมดุลระหว่างการสื่อสารในประเด็นที่ต้องการกับการทำให้มุมมองของเด็กที่มีต่อโลกนั้นบิดเบี้ยวไปโดยมิได้ตั้งใจ

การใช้เวลาอยู่กับเด็กๆ เป็นเรื่องที่ท้าทาย อยู่ดีๆ เขาก็จะขว้างบอลโค้งเข้าใส่โดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว และนั่นคือความสนุกละ! เด็กๆ ส่วนมากชอบที่จะเล่าความคิดของตนเองให้เราฟัง ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราเห็นช่องว่างทางความรู้เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนเพื่อที่จะให้ความรู้แก่พวกเขาได้อย่างถูกต้อง แต่ยังทำให้เรารู้ว่าพวกเขามองโลกอย่างไร การสร้างสมดุลระหว่างการมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาด้วยพลังงานในระดับเดียวกับที่พวกเขามีส่วนร่วมในวงสนทนาเพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกมองข้าม การประเมินความสนใจของพวกเขาในหัวข้อที่เราสอน รวมถึงระดับความรู้ของเด็กๆ ไปพร้อมๆ กันเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เมื่อใดที่เด็กๆ หาข้อสรุปด้วยตัวของตัวเองได้ ความรู้สึกมีส่วนร่วมก็จะเพิ่มมากขึ้น ความต้องการที่จะเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆ รอบตัวก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งถือว่าคุ้มค่าความพยายามของเรา

ครูผู้สอนจะต้องสอนเรื่องภาวะโลกร้อนแก่เด็กๆ อย่างระมัดระวัง เมื่อคุณพยายามที่จะอบรมเด็กให้มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสิ่งแวดล้อม ให้รักโลกที่เป็นที่อยู่อาศัยของพวกเขา และเคารพต่อท้องถิ่น ผู้คน สัตว์ และต้นไม้ จึงเป็นการยากที่จะนำเอาความผิดพลาดในอดีต สัญญาที่ไม่เคยรักษา และภาวะเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ขึ้นมาพูด

ฉันเติบโตขึ้นมาในอาฟริกาใต้ จึงเห็นความสำคัญของการเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต เพราะเราไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่เราเคยทำไว้กับโลกในอดีตได้ในเมื่อมีหลักฐานทางกายภาพเห็นอยู่ทนโท่รอบๆ ตัว อย่างไรก็ตาม ภาวะโลกร้อนทำให้เราสามารถแบ่งแยกสิ่งที่เห็นและความเชื่ออกจากกันได้หากเรามองอย่างลึกซึ้งในระยะยาว ซึ่งสำคัญต่อการยอมรับความจริงเกี่ยวกับปัจจุบันและเป็นห่วงอนาคตของโลก

ภาวะโลกร้อนแสดงตนให้เราเห็นในหลายรูปแบบ ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นการยากที่เราจะกำหนดนิยามหรือยกตัวอย่างที่ทุกคนในประเทศเห็นพ้องต้องกัน อย่างคนในรัฐเทนเนสซี ภาวะโลกร้อนสำหรับพวกเขาคือมีหิมะตกมากขึ้น แต่สำหรับคนที่นี่คือหิมะตกน้อยลง เรารู้เกี่ยวกับเหตุการณ์เด่นๆ อย่างการละลายของภูเขาน้ำแข็งขั้วโลก แต่ก็เปินสิ่งไกลตัวมากและง่ายที่จะลืมมันไปเสีย ดังนั้นกิจกรรมหลายๆ อย่างที่เราทำอย่างเช่น Climate Carts จึงมุ่งเน้นไปที่การนำเอาภาวะโลกร้อนมาไว้ใกล้ตัวและแสดงให้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้างในพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่และให้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะหยุดยั้งมัน ภาวะโลกร้อนกลายเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเมื่อคุณพยายามก่อแนวฟองน้ำป้องกันคลื่นให้แก่ชายหาดที่คุณอาศัยอยู่หรือวางผังเมืองใหม่เพื่อป้องกันน้ำท่วม และทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่น่าสนุกไปด้วย กิจกรรมเหล่านี้ไม่มีบทสรุป เราสามารถทำกิจกรรมประเภทนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเรียนรู้ไปกับมัน ภารกิจของเราที่ Stone Living Lab ไม่ได้เป็นการต่อสู้กับความขาดแคลนการเรียนการสอนเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน มันเป็นเรื่องยากที่เราจะสอนเด็กทุกเรื่องที่เราคิดว่าเขาควรจะรู้ภายในเวลา 10 นาที เราไม่สามารถสอนศัพท์ทางวิชาการยากๆ  การวิเคราะห์ข้อมูล การณรงค์ต่อสู้กับปัญหา หรือการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญๆ ได้ แต่เราสามารถสร้างความสนใจในตัวเด็กได้ การสอนในเรื่องที่ใกล้ตัวของพวกเขาเป็นเรื่งที่ง่ายกว่า เราเพียงทำให้เด็กมีความรู้ขั้นพื้นฐานที่สุดที่จะทำให้พวกเขาเข้าใจและรักสิ่งแวดล้อม และหวังว่าเราจะเปลี่ยนความคิดที่พวกเขามีต่อการศึกษาได้ด้วย คือเป็นเรื่องที่น่าสนุกแทนที่จะเป็นเรื่องเครียด เราไม่จำเป็นต้องทำให้เด็กกลัวด้วยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาวะน้ำทะเลเป็นกรด ฝนกรด ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความรุนแรงอื่นๆ  เราเพียงแค่แนะนำให้เขารู้จักโลกรอบๆ ตัวเขา กระตุ้นให้พวกเขาคิด และอบรมให้พวกเขารักสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อเขารักสิ่งแวดล้อมแล้ว เขาก็ต้องการจะปกป้องมัน และเมื่อถึงเวลาพวกเขาจะรู้เองว่าต้องทำอย่างไร

Scroll to Top