
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นกระจายกันถ้วนหน้าในการดำเนินวิถีชีวิตของทุกคน ทะเลก็เป็นส่วนสำคัญในนการดูดซับคาร์บอนและสร้างสมดุลของธรรมชาติ
เครือข่ายชาวประมงสตรีพื้นบ้านประเทศไทยและเครือข่ายชาวประมงโลก ร่วมกล่าวคำประกาศร่วมกัน
“ปกป้องทะเลเพื่อพลเมืองโลก”
“ทะเลคือชีวิตของพวกเราทุกคน ที่กำลังถูกรุมทึ้งทำลายโดยกลุ่มทุน นักการเมือง และรัฐบาลที่ไม่รู้จักพอ”
โลกใบนี้ มีมหาสมุทรมากกว่าแผ่นดินมากถึง 3 ส่วน 4 ที่ควรจะสามารถเลี้ยงผู้คนจากโลกใบนี้ได้อย่างสบาย หากในความเป็นจริงแล้ว มนุษย์กำลังหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆจนเกินกำลังที่มหาสมุทรจะรองรับได้ไหว
และในหลายประเทศกำลังประสบกับภาวะวิกฤติด้วยน้ำมือของความไม่รู้จักพอของมนุษย์ผู้มีอำนาจที่ไม่รู้จักพอ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งมิติด้านการประมง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การเพาะเลี้ยง หรือแม้แต่การท่องเที่ยว
กล่าวคือ การประมงที่เคยถูกสหภาพยุโรปให้ใบแดงต่อวิธีการทำประมงของประเทศไทยในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไม่คำนึงต่อความสมดุลของระบบนิเวศและไม่เคารพต่อสิทธิการใช้แรงงานในภาคประมง จนนำไปสู่การแก้ไขกฏหมายให้เท่าทันกับยุคสมัยมากขึ้น หากแต่ยังมีความพยายามของกลุ่มทุนการประมงและนักการเมืองที่ต้องการแก้ไขกฎหมายบางมาตรา เพื่อให้มีการทำประมงที่ทำลายระบบนิเวศสัตว์น้ำอีกต่อไป
ดังสะท้อนได้จากกรณีมาตรา 69 ของร่างกฎหมายการประมงฉบับใหม๋ที่กำลังเข้าสู่กระบวนการรัฐสภาในเวลานี้ รวมไปถึงการเสนอนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างเช่นโครงการแลนด์บริดจ์ในพื้นที่ภาคใต้ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพียงต้องการปรับเปลี่ยนพื้นที่ชายฝั่งทะเลให้เป็นท่าเรือขนาดใหญ่เพื่อรองรับระบบโลจิสติกต์ของภูมิภาค และรวมถึงการใช้พื้นที่ทะเลชายฝั่งเพื่อการอุตสาหกรรม ที่จะมาพร้อมกับกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้ง EEC และ SEC
การเพาะเลี้ยงยุคใหม่ ที่กำลังถูกผลักดันโดยทุนจีนผ่านกรมประมงประเทศไทย ที่ต้องการใช้พื้นที่ทะเลในหลายจังหวัดเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงแบบเปิด ไร้ขอบเขต และอาจจะไร้ระบบที่จะควบคุมได้ ทั้งผลกระทบจากสารเคมี ชนิดพันธุ์ของสัตว์น้ำ ที่เชื่อว่าจะส่งผลกระทบมหาศาลต่อระบบนิเวศท้องถิ่น
รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่ไร้การควบคุมปล่อยให้มีการบุกรุกที่ดินสาธารณะ และการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นโครงสร้างแข็งที่กำลังทำให้ชายหาดจำนวนมากพังทะลายไม่สิ้นสุด
พวกเราชาวประมงพื้นบ้าน คือกลุ่มคนที่อยู่อาศัยในชุมชนชายฝั่งทะเล อันเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของมหาสมุทร ที่มีชีวิตผูกพันกับทะเลตั้งแต่เกิดจนตายอย่างแยกกันไม่ออก และคำกล่าวที่ว่า “ทะเลคือชีวิต” คือคำพูดที่ไม่ไกลเกินจริงมากนักสำหรับพวกเรา การดำรงอยู่ของพวกเราจึงไม่สามารถมีชีวิตได้ท่ามกลางทะเลที่กำลังถูกรุมทึ้งทำลายด้วยรูปแบบต่างๆที่กล่าวมา
จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล นักการเมือง และกลุ่มทุน ได้โปรดยอมรับแนวคิด “การพัฒนาที่ยั่งยืน” ตามความหมายขององค์การสหประชาชาติ ที่ต้องเคารพความหลากหลายและความสมดุลของระบบนิเวศ การดำรงอยู่ของชาวประมงพื้นบ้าน
โดยต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างเท่าเทียมกันทั้งหญิงชายและความแตกต่างทางเพศสภาพ เพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างยั่งยืนยาวนานตลอดไป
แถลง ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2568
ณ ชายหาดบ้านสวนกง






