THAI CLIMATE JUSTICE for All

แนวหน้าของการปกป้องสิ่งแวดล้อมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: เจาะลึกความท้าทายและการต่อสู้เพื่อความยั่งยืน

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคที่ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก การปกป้องสิ่งแวดล้อมมักเป็นงานที่เผชิญกับแรงกดดันมหาศาล นักปกป้องสิ่งแวดล้อม นักข่าว และชุมชนพื้นเมืองต้องต่อสู้กับระบบที่แฝงไปด้วยการคอร์รัปชัน การใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิด และการสมคบคิดระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชน ความซับซ้อนของปัญหาเหล่านี้ทำให้ความพยายามในการสร้างความยั่งยืนต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ท้าทายอย่างยิ่ง

ความท้าทายสำคัญของนักปกป้องสิ่งแวดล้อม

1. ความรุนแรงและการข่มขู่

ภัยคุกคามทางร่างกายยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักปกป้องสิ่งแวดล้อมในหลายประเทศ เช่น:

  • ประเทศไทย: กรณีของ “ชัยภูมิ ป่าแส” และนักปกป้องสิ่งแวดล้อมหลายคนที่ถูกยิงเสียชีวิตหรือถูกข่มขู่จากกลุ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเหมืองแร่
  • อินโดนีเซีย: การคุกคามชุมชนพื้นเมือง Bajau ที่พยายามปกป้องทะเลจากการทำเหมืองนิกเกิลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
  • เมียนมา: นักปกป้องสิ่งแวดล้อมที่ถูกจับกุมหรือคุกคามโดยกองทัพหลังรัฐประหารปี 2021

2. การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือข่มขู่

การฟ้องร้องเชิงกลยุทธ์ (SLAPP) ถูกนำมาใช้ในหลายประเทศ เช่น:

  • ประเทศไทย: ภาคเอกชนฟ้องนักปกป้องสิ่งแวดล้อมในข้อหาหมิ่นประมาทหรือขัดขวางการพัฒนา
  • เวียดนาม: การกล่าวหาผู้นำองค์กรสิ่งแวดล้อมในข้อหาภาษีและการฉ้อโกง เพื่อลดบทบาทของพวกเขาในการวิจารณ์นโยบายของรัฐบาล

3. การละเลยสิทธิของชุมชนพื้นเมือง

ชุมชนพื้นเมืองในหลายประเทศถูกปฏิเสธสิทธิในที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติที่พวกเขาพึ่งพา:

  • กัมพูชา: แม้กฎหมายในปี 2001 จะรับรองสิทธิในที่ดินของชุมชนพื้นเมือง แต่การดำเนินการในทางปฏิบัติยังเต็มไปด้วยการคอร์รัปชันและการแทรกแซง
  • อินโดนีเซีย: การให้สัมปทานเหมืองแร่บนเกาะเล็กๆ อย่าง Kabaena ซึ่งขัดต่อกฎหมายสิ่งแวดล้อมของประเทศเอง

4. ความเชื่อมโยงระหว่างรัฐและภาคธุรกิจ

ในหลายกรณี รัฐบาลและบริษัทเอกชนร่วมมือกันผลักดันโครงการพัฒนาที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:

  • เวียดนาม: รัฐบาลมีผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมถ่านหิน ซึ่งทำให้การเรียกร้องลดการใช้ถ่านหินถูกมองว่าเป็นภัยต่อรัฐ
  • อินโดนีเซีย: การขยายตัวของอุตสาหกรรมเหมืองแร่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น

ทำไมปัญหานี้จึงยังดำรงอยู่

1. โครงสร้างอำนาจรวมศูนย์

ในหลายประเทศ เช่น เมียนมาและเวียดนาม โครงสร้างการปกครองที่รวมศูนย์อำนาจไว้ในมือของรัฐทำให้การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมถูกจำกัด รัฐบาลมักมององค์กรอิสระและ NGO เป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งลดโอกาสในการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ

2. การพัฒนาเศรษฐกิจที่เน้นตัวเลข

หลายรัฐบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าความยั่งยืน การทำเหมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการส่งออกสินค้าเกษตรมักดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือสิทธิมนุษยชน

3. ขาดการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็ง

แม้ว่าหลายประเทศจะมีกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด แต่การบังคับใช้กลับอ่อนแอ เนื่องจากการคอร์รัปชันและผลประโยชน์ทับซ้อน

4. ขาดการศึกษาและการสนับสนุนระดับชุมชน

ความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับสิทธิในสิ่งแวดล้อมและผลกระทบระยะยาวจากโครงการพัฒนายังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ชุมชนที่ต้องการปกป้องสิ่งแวดล้อมมักขาดเครื่องมือและการสนับสนุนที่จำเป็น

แนวทางการแก้ปัญหาเชิงรุก

1. การสร้างเครือข่ายนักปกป้องสิ่งแวดล้อม

การสร้างความร่วมมือระหว่างนักปกป้องสิ่งแวดล้อมในระดับภูมิภาคจะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองและปกป้องพวกเขาจากการคุกคาม

2. การสนับสนุนจากนานาชาติ

การใช้กลไกระหว่างประเทศ เช่น UN หรือ ASEAN ในการผลักดันนโยบายที่คุ้มครองสิทธินักปกป้องสิ่งแวดล้อม และการกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

3. การปฏิรูปกฎหมายและระบบยุติธรรม

การออกกฎหมายคุ้มครองนักปกป้องสิ่งแวดล้อมและการปรับปรุงระบบยุติธรรมเพื่อขจัดการฟ้องร้องเชิงกลยุทธ์และการใช้กฎหมายในทางที่ผิด

4. การเสริมสร้างพลังของชุมชน

การให้ความรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ การสนับสนุนให้ชุมชนเข้ามามีบทบาทในกระบวนการตัดสินใจ และการสร้างความเข้มแข็งในองค์กรท้องถิ่น

5. การสนับสนุนสื่อมวลชนอิสระ

การเพิ่มบทบาทของสื่อมวลชนในการรายงานปัญหาสิ่งแวดล้อม และการให้ความคุ้มครองนักข่าวที่รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม

บทสรุป

แม้การปกป้องสิ่งแวดล้อมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่การรวมพลังของนักปกป้องสิ่งแวดล้อม ชุมชน และนานาชาติสามารถสร้างแรงกดดันเชิงบวกต่อรัฐบาลและภาคธุรกิจได้ การสร้างความเข้าใจและการสนับสนุนอย่างยั่งยืนจากทุกภาคส่วนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นธรรมในภูมิภาคนี้


เครดิต : Southeast Asia’s environmental defenders on the frontline

Scroll to Top