
เช้านี้ 29 กันยายน 2568 ที่สำนักงานใหญ่ Coral Life HQ39 ทีม C Team ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) จัดเวทีเสวนา “บทบาทขององค์กรภาคประชาสังคม (CSOs) ในการส่งเสริมความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม” โดยมี CSOs จากไทยและจีนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทั้งองค์กรสิ่งแวดล้อม มูลนิธิ ชุมชน และกลุ่มรากหญ้า
เวทีครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงการถดถอยของการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ด้วยวัตถุประสงค์สร้างเครือข่ายเรียนรู้แลร่วมมือขององค์กร และ เปิดมุมมองโอกาสอาชีพ–ทรัพยากรสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามามีบทบาท
ในช่วงนำเสนอ กรณีศึกษามีตั้งแต่การเสริมพลังชุมชนรับมือภัยพิบัติของมูลนิธิรักไทย การอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำโดย TEI การเปลี่ยนผ่านพลังงานถ่านหินในจีน ไปจนถึงการจัดการขยะเมืองและการประเมินความเสี่ยงสภาพภูมิอากาศในระดับชุมชน
กฤษฎา บุญชัย เลขาธิการสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา และผู้ประสานงาน Thai Climate Justice for All ในฐานะผู้บรรยายหลัก ได้นำเสนอว่า การปรับตัวของชุมชนต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจ คุณค่าทางวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างชุมชนกับธรรมชาติ ไม่ใช่การผลักดันแบบ top-down ที่ละเลยมิติชีวิตจริงของผู้คน เพราะผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้กระทบเพียงกายภาพหรือเศรษฐกิจ แต่ยังลึกถึงอัตลักษณ์และความเปราะบางเชิงโครงสร้าง การส่งเสริมการปรับตัวจึงควรเป็นการสร้างพลังให้สิทธิทางวัฒนธรรมและนิเวศของชุมชนเข้มแข็งขึ้น ซึ่งถือเป็นทั้งสิทธิมนุษยชนและแก่นของความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ
กฤษฎาตอกย้ำว่า การแก้ปัญหาวิกฤตภูมิอากาศต้องอาศัย พลังของชุมชน วัฒนธรรม และความร่วมมือภาคประชาสังคม ร่วมกับการสร้างนโยบายและโครงการที่เคารพสิทธิและคุณค่าของผู้คนในพื้นที่อย่างแท้จริง
หลังเวทีเสวนาได้เกิดการพูดคุยความร่วมมือกันระหว่าง TCJA และภาคีจากจีนเรื่องการศึกษาทำความเข้าใจและส่งเสริมชุมชนท้องถิ่นปรับตัวกับสภาพภูมิอากาศบนทางนิเวศวัฒนธรรมที่ก้าวข้ามกรอบคิดวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศจากโลกาภิวัตน์
งานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Climate Action Week ตั้งแต่ 28 กันยายน จนถึง 5 ตุลาคม 2568








