
1. Lakota Sioux
“The earth does not belong to us. We belong to the earth.”
“แผ่นดินนี้ไม่ได้เป็นของเรา เราต่างหากที่เป็นของแผ่นดินนี้”
คำพูดนี้สะท้อนถึงปรัชญาพื้นฐานของชนเผ่า Lakota Sioux ที่มองว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นเจ้าของโลก แต่เป็นส่วนหนึ่งของโลก ความคิดนี้เน้นถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ที่มนุษย์ต้องเคารพและดูแลโลกอย่างมีจิตสำนึก
ชนเผ่า Lakota Sioux อาศัยอยู่ในภูมิภาค Great Plains ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงพื้นที่ที่ปัจจุบันเป็นรัฐ North Dakota, South Dakota, Nebraska, และ Minnesota
2. Cree
“Only when the last tree has been cut down, the last fish caught, and the last stream poisoned, will we realize we cannot eat money.”
“เมื่อถึงวันที่ต้นไม้ต้นสุดท้ายถูกโค่นลง ปลาตัวสุดท้ายถูกจับ และสายน้ำสุดท้ายถูกทำลาย เราถึงจะตระหนักว่าเราไม่สามารถกินเงินได้”
คำพูดจากชนเผ่า Cree เป็นคำเตือนถึงผลกระทบที่รุนแรงจากการทำลายธรรมชาติ ชนเผ่า Cree ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่สามารถทดแทนได้ และเตือนว่าเมื่อมนุษย์ทำลายธรรมชาติไปจนหมด เราจะเข้าใจว่าความมั่งคั่งทางวัตถุไม่สามารถทดแทนสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้ได้
ชนเผ่า Cree อาศัยอยู่ในแถบตอนเหนือของอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะในแคนาดา ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ Quebec ไปจนถึง Alberta
3. Hopi
“All living things are our relatives; what we do to everything, we do to ourselves.”
“สิ่งมีชีวิตทุกอย่างเป็นเสมือนญาติพี่น้องของเรา สิ่งที่เราทำต่อธรรมชาติเราก็ทำต่อตัวเราเอง”
ชนเผ่า Hopi เน้นถึงแนวคิดของความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ พวกเขามองว่าทุกชีวิตในธรรมชาติเป็นเหมือนญาติพี่น้อง และการกระทำที่มนุษย์ทำต่อธรรมชาติก็จะส่งผลกลับมาที่ตัวเอง ความคิดนี้เน้นถึงความรับผิดชอบที่มนุษย์ต้องมีต่อโลกและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
ชนเผ่า Hopi ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐ Arizona ชนเผ่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ทะเลทรายแห้งแล้ง
4. Zuni
“We are the stewards of the earth, meant to take care of it, not destroy it.”
“เราเป็นผู้ดูแลแผ่นดิน มีหน้าที่ในการดูแลรักษา ไม่ใช่ทำลาย”
ชนเผ่า Zuni มองว่ามนุษย์มีหน้าที่เป็นผู้ดูแลโลก เราไม่ควรทำลายธรรมชาติ แต่ต้องดูแลและรักษาเพื่อให้โลกสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน คำพูดนี้เน้นบทบาทของมนุษย์ในการเป็นผู้พิทักษ์ธรรมชาติ
ชนเผ่า Zuni ตั้งอยู่ในรัฐ New Mexico สหรัฐอเมริกา พวกเขาอาศัยในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศกึ่งแห้งแล้งและภูเขา
5. Maasai
“We walk to the rhythm of the earth. Our steps keep time with the heartbeat of the land.”
“เราเดินไปตามจังหวะของแผ่นดิน ก้าวเดินของเราสอดคล้องกับจังหวะหัวใจของแผ่นดิน”
ชนเผ่า Maasai มองว่าการดำเนินชีวิตของพวกเขาต้องสอดคล้องกับจังหวะและพลังงานของธรรมชาติ เพื่อรักษาความสมดุลในการอยู่ร่วมกัน
ชนเผ่า Maasai อาศัยอยู่ในแถบภูมิภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะในประเทศเคนยาและแทนซาเนีย
6. Dayak
“The forest is our life, without it, we have no future.”
“ป่าคือชีวิตของเรา หากไม่มีป่า เราจะไม่มีอนาคต”
ชนเผ่า Dayak ซึ่งอาศัยอยู่ในเกาะบอร์เนียว เชื่อว่าป่าไม้เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของพวกเขา ทั้งในด้านการทำมาหากิน วัฒนธรรม และจิตวิญญาณ ป่าไม่ใช่เพียงแหล่งทรัพยากร แต่เป็นส่วนสำคัญของชีวิตและความอยู่รอด
ชนเผ่า Dayak อาศัยอยู่ในเกาะบอร์เนียว ซึ่งครอบคลุมทั้งประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และบรูไน พวกเขาอาศัยอยู่ในป่าฝนเขตร้อนซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดในโลก
7. Hmong
“We are children of the mountains. Our ancestors live in the trees, rivers, and the wind.”
“พวกเราเป็นลูกหลานของภูเขา บรรพชนของเราอาศัยอยู่ในต้นไม้ แม่น้ำ และสายลม”
ชนเผ่า Hmong ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองในแถบภูเขาสูงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน เชื่อว่าพวกเขามีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับภูเขาและธรรมชาติ โดยบรรพบุรุษของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ในธรรมชาติ เช่น ต้นไม้และแม่น้ำ
ชนเผ่า Hmong อาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขาในหลายประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงลาว เวียดนาม และภาคใต้ของจีน
บทสรุป
ชนเผ่าพื้นเมืองจากทั่วโลก รวมถึงในภูมิภาคเอเชีย มีความเชื่อที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติ พวกเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่หลากหลาย ตั้งแต่ป่าฝนเขตร้อนของบอร์เนียวไปจนถึงภูเขาสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม้สถานที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือการมองธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและจิตวิญญาณ การเคารพธรรมชาติและการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติจึงเป็นหัวใจสำคัญในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของพวกเขา
อ้างอิง
1. Lakota Sioux
Deloria, Vine Jr. (1999). For This Land: Writings on Religion in America. Routledge. งานนี้กล่าวถึงมุมมองทางศาสนาและความเชื่อของชนเผ่า Lakota Sioux เกี่ยวกับธรรมชาติและโลก
2. Cree
Berkes, Fikret. (1999). Sacred Ecology: Traditional Ecological Knowledge and Resource Management. Taylor & Francis. Berkes อธิบายถึงบทบาทของความรู้ดั้งเดิมของชนเผ่า Cree ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
3. Hopi
Wall, Steve. (1993). Wisdomkeepers: Meetings with Native American Spiritual Elders. Beyond Words Publishing. หนังสือที่รวบรวมคำสอนของผู้นำทางจิตวิญญาณของชนเผ่า Hopi เกี่ยวกับธรรมชาติและชีวิต
4. Zuni
Ferguson, T. J. (1996). Historic Zuni Architecture and Society: An Archaeological Application of Space Syntax. University of Arizona Press. หนังสือที่อธิบายถึงโครงสร้างสังคมและความเชื่อของชนเผ่า Zuni รวมถึงการดูแลธรรมชาติ
5. Maasai
Spear, Thomas. (1993). Being Maasai: Ethnicity and Identity in East Africa. James Currey Publishers. หนังสือที่กล่าวถึงวิถีชีวิตและความเชื่อของชนเผ่า Maasai โดยเฉพาะการเคารพและรักษาจังหวะของธรรมชาติ
6. Dayak
Sellato, Bernard. (2002). Nomads of the Borneo Rainforest: The Economics, Politics, and Ideology of Settling Down. University of Hawaii Press. หนังสือที่กล่าวถึงชนเผ่า Dayak ในบอร์เนียวและความเชื่อเกี่ยวกับป่าไม้
7. Hmong
Lee, Gary Y. (2009). The Hmong of Laos: An Indigenous People in a Globalizing World. Cengage Learning. งานนี้กล่าวถึงชนเผ่า Hmong ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และความเชื่อเกี่ยวกับธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับบรรพชน