เกษตรนิเวศ ระบบอาหารสู้โลกเดือด
วันนี้ผมกฤษฎา บุญชัยได้รับเชิญเป็นวิทยากรเสวนา เรื่อง”การจัดการระบบอาหารสู้โลกเดือด เพื่อการบริโภคอาหารสมดุล” จัดโดย สสส.สำนัก 5
จากเวที COP สู่นโยบายรัฐไทยเรื่องเกษตรกับการปรับตัวภาวะโลกร้อน โดยคุณอัศมน ลิ่มสกุล กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯ มาสู่ผม ที่ได้เชื่อมโยงให้เห็น ปัญหาความไม่เป็นธรรมสภาพภูมิอากาศที่กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน อุตฯ เกษตร และอื่น ๆ ปล่อยคาร์บอนส่วนเกินขีดจำกัดโลกในชั้นบรรยากาศถึง 5.4 แสนล้านตันฯ
เกิดภาวะโลกรวนที่กำลังจะทำให้ระบบอาหารของโลกล่มสลาย
แนวนโยบาย net zero ตลาดคาร์บอน กลายเป็นเรื่องลวงโลกในภาวะวิกฤต
ท่ามกลางแรงกดดันมาที่ภาคเกษตรและเกษตรกร การสร้างวิถีเกษตรนิเวศทั้งเพื่อการลดการเรือนกระจกและการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศคือหัวใจสำคัญและเกษตรกร
คุณสุชาญ ศีลอำนวย จากมูลนิธิ moa ก็ได้รับลูกต่อถึงวิถีเกษตรนิเวศที่ปรับตัวกับโลกร้อนและสร้างอาหารที่มีคุณค่า
โยงไปถึงน้องคนึงนุช วงศ์เย็น จากอุบลฯ ที่สร้างปฏิบัติการกิจกรรมเกษตรและผู้บริโภคในวิถีอาหารเชิงนิเวศ
ปิดท้ายด้วยคุณเรวัต นิยมวงศ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลชากไทย จันทบุรี ที่พูดถึงบทบาทของเทศบาลในการเสริมสร้างวิธีอาหารภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทั้งหมดได้เป็นคำตอบร่วมกันว่า เกษตรนิเวศ คือแนวทางออกของการกู้วิกฤตโลกร้อน เพื่อนิเวศเพื่อเกษตรและผู้บริโภค
ได้เร่งเปลี่ยนปั่นเชิญโครงสร้าง เปลี่ยนผ่านเกษตรพาณิชเชิงเดี่ยวที่ถูกกำกับโดยกลุ่มทุนเกษตรมาสู่เกษตรนิเวศในมือของเกษตรกรและผู้บริโภค
กำกับให้กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและอื่นๆต้องรับผิดชอบรถก๊าซเรือนกระจกของตัวเองโดยตรง
โดยไม่เอาเรื่อง Net Zero ตลาดคาร์บอน และเทคโนโลยีที่ไม่ตอบโจทย์นิเวศและชุมชน มาสร้างปัญหาความไม่เป็นธรรมและความไม่ยั่งยืนต่อนิเวศและสังคมอีกต่อไป
นี่น่าจะเป็นภารกิจร่วมของสังคมที่ทั้ง สสส.และภาคีสสส. จะต้องร่วมกันขับเคลื่อนระบบอาหารเพื่อนิเวศ และระบบนิเวศเพื่ออาหารที่เป็นธรรมและยั่งยืน




