
บทนำ: ถ้าโลกไม่ได้มีแค่แบบเดียว แล้วเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร?
หลังจากที่ Arturo Escobar วิพากษ์ระบบ “One-World World” (OWW) ว่าเป็นโลกทัศน์แบบรวมศูนย์ที่ครอบงำวิถีคิดของโลกสมัยใหม่ เขาไม่ได้ทิ้งผู้อ่านไว้ในความสิ้นหวัง แต่ชวนให้จินตนาการถึงโลกอีกแบบหนึ่ง — โลกที่หลากหลาย โลกที่ไม่ได้ยึดความเป็นสากลเพียงแบบเดียวเป็นมาตรฐานกลาง แต่ยอมรับว่ามี “หลายโลก” ที่ดำรงอยู่พร้อมกันอย่างเท่าเทียม และควรได้รับการยอมรับในฐานะความจริงของชีวิตที่เท่าเทียมกัน
แนวคิดนี้เรียกว่า “Pluriverse” — คำที่ไม่ได้แปลว่า “หลายมุมมองในโลกเดียว” แต่คือ “โลกหลายใบ” ที่มีรากคิด จิตวิญญาณ ระบบคุณค่า และวิธีอยู่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์
Pluriverse คืออะไร?
ในทางนิยาม “Pluriverse” คือการยืนยันว่า โลกไม่ได้มีอยู่แบบเดียว และไม่ควรถูกบังคับให้เป็นแบบเดียว
มันคือการมองโลกไม่ผ่านเลนส์แบบเดียวของทุนนิยม วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ หรือการพัฒนาเชิงเทคโนโลยี หากแต่ยอมรับว่า แต่ละชุมชน แต่ละวัฒนธรรม ต่างก็มี “โลก” ของตนเอง — มีระบบความสัมพันธ์ ความรู้ จินตนาการ และเป้าหมายของการดำรงอยู่ที่แตกต่างกัน
“A pluriverse is a world where many worlds fit.” — คำกล่าวนี้ที่ Escobar ยืมจากกลุ่มซาปาติสตาในเม็กซิโก กลายเป็นหัวใจสำคัญของแนวคิดทั้งเล่ม
- Pluriverse จึงเป็นแนวคิดที่ ต่อต้านความเป็นสากลในนามของความหลากหลาย
- ไม่ใช่แค่ความหลากหลายทางวัฒนธรรมในระบบเดียวกัน (diversity in a global system)
- แต่เป็นการยืนยันว่า “ระบบ” เองก็ควรหลากหลาย — มีหลายแบบ หลายตรรกะ หลายวิถีชีวิต
จากโลกทัศน์สากลสู่การยอมรับ “Cosmovision” ท้องถิ่น
- หัวใจของ Pluriverse คือการเคารพ “cosmovision” หรือ โลกทัศน์พื้นฐานที่กำกับวิธีอยู่ วิธีคิด และวิธีเข้าใจโลก ของชุมชนต่างๆ
- โลกทัศน์เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงความเชื่อพื้นเมือง หากแต่เป็น วิธีรู้โลก ที่มีตรรกะในตัวเอง เช่น:
- การมองว่าธรรมชาติเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่ทรัพยากร
- การเข้าใจเวลาเป็นวัฏจักร ไม่ใช่เส้นตรง
- การวางศูนย์กลางของชีวิตไว้ที่ความสัมพันธ์ มากกว่าปัจเจกหรือผลผลิต
- Escobar ยืนยันว่า การออกแบบในโลก Pluriverse ต้องยืนบน cosmovision นั้น ไม่ใช่ดัดแปลงให้เข้ากับตรรกะของโลกทุนนิยม
Pluriverse ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่เป็นการต่อสู้เพื่ออำนาจในการ “กำหนดชีวิต”
Pluriverse มีนัยยะทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง เพราะมันหมายถึง การท้าทายอำนาจของรัฐ ตลาด และสถาบันวิชาการตะวันตก ที่ผูกขาดการออกแบบอนาคตของมนุษย์
Escobar ยกตัวอย่างขบวนการเคลื่อนไหวในลาตินอเมริกา เช่น:
Proceso de Comunidades Negras ในโคลอมเบีย: ชุมชนคนผิวดำที่รวมตัวกันสร้างระบบเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการศึกษาแบบตนเอง
ชุมชนพื้นเมืองใน Andes และ Amazon: ออกแบบระบบปกครองตนเอง (autonomous governance) โดยมีฐานคิดจากความสัมพันธ์กับผืนดิน บรรพบุรุษ และจิตวิญญาณ
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การ “ปรับตัว” กับโลกสมัยใหม่ แต่คือ การปฏิเสธโลกแบบเดียว และสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาอย่างเป็นระบบ
การอยู่ร่วมใน Pluriverse: ไม่ใช่แค่ความหลากหลาย แต่คือความสัมพันธ์แบบเคารพ
Escobar เน้นว่า Pluriverse ไม่ได้หมายถึงการแบ่งแยกออกจากกันแบบแต่ละโลกอยู่โดดเดี่ยว
หากแต่คือการยอมรับว่า เราสามารถอยู่ร่วมกันในโลกที่ไม่เหมือนกันได้ — บนฐานของความเคารพและความเข้าใจ
การออกแบบใน Pluriverse จึงไม่ใช่การทำให้ทุกคนใช้ผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันเดียวกัน แต่คือการสร้าง พื้นที่ (spaces) ที่เอื้อต่อความแตกต่าง โดยไม่กลืนกลาย
การออกแบบใน Pluriverse: เครื่องมือสร้างชีวิต ไม่ใช่แค่สร้างนวัตกรรม
การออกแบบ (design) ตามแนวทาง Pluriverse คือการออกแบบเพื่อ:
- ฟื้นคืนความสามารถของชุมชนในการกำหนดชีวิตตนเอง
- เคารพตรรกะของโลกแต่ละใบ
- ไม่ยัดเยียดโซลูชัน แต่สร้างพื้นที่สำหรับวิธีคิดที่แตกต่าง
นี่คือการพลิกกลับจาก “Design Thinking” แบบตะวันตกที่มักเน้นการแก้ปัญหา (problem-solving) มาสู่ การออกแบบเป็นความสัมพันธ์ (design as relation) คือการอยู่ร่วม ทำงานร่วม และเปลี่ยนแปลงร่วม โดยไม่กลืนความแตกต่าง
พลวัตของ Pluriverse กับปัญหาท้าทายในโลกจริง
- แม้ Escobar เสนอ Pluriverse ในฐานะทางเลือกเชิงปรัชญา แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความท้าทาย เช่น:
- โลกหลายโลกอาจมีความขัดแย้งภายในเอง เช่น การกดขี่ผู้หญิงในบางวัฒนธรรม
- ความหลากหลายอาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการละเมิดสิทธิมนุษยชน
- ไม่ใช่ทุกชุมชนพร้อม หรือมีอำนาจพอจะสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาได้ทันที
- Escobar ยอมรับว่านี่คือการเดินทางที่ซับซ้อน ไม่ใช่ยูโทเปีย แต่เขายืนยันว่านี่คือ การเดินทางที่จำเป็น หากเราต้องการโลกที่ยุติธรรมและยั่งยืนจริงๆ
บทสรุป: Pluriverse ไม่ใช่ความฝัน แต่คือการปฏิวัติวิธีอยู่ร่วมกันของมนุษย์
แนวคิด Pluriverse คือแก่นสำคัญของ Designs for the Pluriverse ไม่ใช่ในฐานะคำสวยหรู แต่ในฐานะ โครงการทางการเมือง-วัฒนธรรม ที่เสนอว่าการออกแบบควรเป็นเครื่องมือในการฟื้นฟูศักดิ์ศรี ความรู้ และพลังการสร้างโลกของผู้คนหลากหลายกลุ่มทั่วโลก
มันชวนเรากลับไปตั้งคำถามพื้นฐานว่า:
- โลกควรเป็นแบบไหน?
- ใครมีสิทธิ์ออกแบบมัน?
- และเราจะสร้างโลกที่หลากหลายได้อย่างไร โดยไม่ลบล้างกันและกัน?
- Pluriverse จึงไม่ใช่เพียงวิธีคิดใหม่ แต่มันคือ คำเชื้อเชิญให้เราร่วมกันออกแบบโลกใหม่หลายใบ ที่อยู่ร่วมกันได้บนฐานของความเคารพ ความยุติธรรม และความสัมพันธ์