
1. บริบทพื้นที่และชุมชน
เผ่า Kayapó เป็นกลุ่มชนพื้นเมืองในแถบรัฐปารา (Pará) และมาตูโกรสซู (Mato Grosso) ของประเทศบราซิล อาศัยอยู่ในเขตป่าฝนแอมะซอนตอนกลาง-ใต้ ซึ่งอยู่ในบริเวณที่มีความขัดแย้งสูงระหว่างการอนุรักษ์ ปศุสัตว์ การตัดไม้ และการทำเหมืองทอง
Kayapó มีประชากรราว 8,600 คน (ณ ปี 2020) กระจายอยู่ในชุมชนกว่า 30 หมู่บ้าน พวกเขามีระบบการจัดการทรัพยากรอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะในเรื่องการเฝ้าระวังป่า การลาดตระเวน และการกำหนดขอบเขตดินแดนที่ไม่อนุญาตให้มีการตัดไม้
2. REDD+: แนวคิด ความขัดแย้ง และการแปลงคุณค่า
REDD+ (Reducing Emissions from Deforestation and Forest Degradation) เป็นกลไกระหว่างประเทศที่ใช้ตลาดคาร์บอนเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ป่า โดยให้ผลตอบแทนทางการเงินแก่รัฐหรือชุมชนท้องถิ่นที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้
สำหรับ Kayapó กลไก REDD+ เข้ามาผ่านความร่วมมือระหว่างองค์กรอนุรักษ์ (เช่น Environmental Defense Fund และ Amazon Watch), องค์กรพัฒนาเอกชน (เช่น Instituto Raoni), และหน่วยงานวิจัยของรัฐบราซิล โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างรายได้จาก “การปกป้องป่าโดยไม่ตัดไม้” ซึ่งชาว Kayapó ทำอยู่แล้วตามวิถีดั้งเดิม
3. ความรู้ท้องถิ่นกับระบบเทคนิค
REDD+ ต้องการ “พิสูจน์” การลดการปล่อยคาร์บอนผ่านแบบจำลองเชิงเทคนิค เช่น satellite imagery, GIS mapping และ carbon accounting สิ่งนี้ตั้งอยู่บนการวัดเชิงปริมาณและวิธีคิดเชิงเศรษฐศาสตร์
แต่ Kayapó มีระบบความรู้ที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เช่น:
มองป่าเป็นสิ่งมีชีวิต มีวิญญาณ มีระบบเครือญาติ
ใช้พิธีกรรมและความรู้จากผู้อาวุโสในการตัดสินว่าแหล่งทรัพยากรควรใช้เมื่อใดและอย่างไร
มีแนวคิด “รักษาป่าเพื่อรักษาความเป็นคน” ไม่ใช่เพื่อเงินหรือคาร์บอน
การเข้าสู่ REDD+ จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ แต่เป็นการแทรกแซงต่อความสัมพันธ์ระหว่างคนกับโลกธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง
4. การต่อรองและการมีอำนาจของชาว Kayapó
Kayapó ไม่ได้เป็นเพียงผู้รับผลกระทบ แต่พวกเขาต่อรองในหลายระดับ:
การกำหนดขอบเขตโครงการ: ชุมชนบางแห่งเลือก “ไม่เข้าร่วม” เพื่อรักษาอำนาจของผู้นำหมู่บ้าน
การจัดการผลประโยชน์: ตั้งกองทุนภายในเผ่าเพื่อจัดสรรเงินจาก REDD+ ตามกติกาของชุมชนเอง
การผลิตความรู้คู่ขนาน: มีการฝึกคนรุ่นใหม่ให้ใช้เทคโนโลยีอย่างโดรนและ GPS ควบคู่กับการเรียนรู้จากผู้อาวุโส
แนวทางนี้เรียกว่า hybrid governance — การประสานระหว่างระบบอำนาจของรัฐ/ตลาด กับระเบียบของชนพื้นเมือง ซึ่งไม่ใช่การยอมจำนน แต่เป็นการสร้าง “พื้นที่เจรจา” ที่ชาว Kayapó ยังมีเสียงของตน
5. ข้อสังเกตทางมานุษยวิทยา
การแปลงความหมายของ “ป่า”: จากพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิต ไปสู่หน่วยทางเศรษฐกิจและสิ่งที่วัดค่าได้ในตลาดโลก
การเมืองของการวัด: สิ่งที่นับได้ (จำนวนคาร์บอน) มีอำนาจมากกว่าสิ่งที่ “สำคัญต่อชีวิต” แต่ไม่นับได้ เช่น ความผูกพัน ความทรงจำ หรือจิตวิญญาณ
ความเสี่ยงของการเปลี่ยนโลกทัศน์: ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติอาจถูกทำให้เป็นเพียงสัญญาทางการเงิน
6. บทสรุป
กรณีของ Kayapó แสดงให้เห็นว่าการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่สามารถใช้แค่เทคโนโลยีหรือนโยบายด้านบน แต่ต้องคำนึงถึงภูมิรู้ วัฒนธรรม อำนาจ และสิทธิของผู้คนที่อยู่กับป่าจริง ๆ
มุมมองเชิงมานุษยวิทยาจึงช่วย “เปิดโลก” ให้เราเข้าใจว่า REDD+ ไม่ได้เป็นแค่โครงการทางเทคนิค แต่เป็นเวทีการเมืองระหว่างแนวคิดสองโลก — โลกของตัวเลข กับโลกของชีวิต
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Zanotti, L. (2016). “Radical Territories in the Brazilian Amazon: The Kayapo’s Fight for Just Livelihoods”. University of Arizona Press.
Chernela, J. (2013). “The politics of partnership: Indigenous peoples, international NGOs, and the governance of the Amazon”. Latin American Perspectives, 40(5), 55–70.
Schwartzman, S. et al. (2010). “The natural and social history of the indigenous lands and protected areas corridor of the Xingu River basin”. Philosophical Transactions of the Royal Society B, 368(1619).
Turnhout, E., Gupta, A., Weatherley-Singh, J., et al. (2017). “Enrolling the carbon market: REDD+ and the reconfiguration of forest governance”. Environmental Politics, 26(4), 755–773.