THAI CLIMATE JUSTICE for All

ทำไมเราจึงต้องมีการเรียนการสอนเรื่องความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ

เขียนโดย Kristen Hengtgen, Ph.D. และ William Rodick, Ph.D.
วันที่ 22 เมษายน 2024
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
อ้างอิง  Why Education Equity Should Include Climate Justice – EdTrust

ภาวะโลกร้อนกำลังเป็นประเด็นสำคัญของครู นักเรียน และผู้ปกครอง ดังนั้นสถาบันการศึกษาจึงต้องมีการเรียนการสอนเรื่องความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ

นักเรียนสมควรได้รับความรู้ที่สมบูรณ์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและได้รับการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงในอนาคต พวกเขาต้องการโอกาสและเส้นทางสู่ความสำเร็จในการศึกษาขั้นสูงและการอาชีพโดยสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน สิ่งที่นักเรียนความได้รับจากการเรียนการสอนกลับกระท่อนกระแท่นด้วยผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และผลกระทบนี่ส่งผลต่อนักเรียนบางกลุ่มเป็นพิเศษ เช่น นักเรียนผิวสีและนักเยนที่มีฐานะยากจนที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เปราะบางต่อภาวะโลกร้อน ไม่ได้รับการศึกษาที่ดีพอ และไม่ได้รับโอกาสในการศึกษาขั้นสูงและการอาชีพที่สม่ำเสมอ เด็กๆมักได้รับการบอกเล่าว่าการศึกษาที่ดีจะทำให้พวกเขาเจริญก้าวหน้า แต่พวกเขาจะมีความก้าวหน้าได้อย่างไรหากอนาคตขาดความแน่นอน และไม่รุ้ว่าโลกในอนาคตจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

ความไม่เท่าเทียมด้านการศึกษาในอดีตที่ผ่านมาเป็นกระจกเงาสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมในประเด็นอื่นๆในนโยบายสาธารณะเช่นการเคหะ การจ้างงาน การขนส่ง และความมั่นคงทางอาหาร นักเรียนผิวสีและนักเรียนยากจนมักอยศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลภาวะ เปราะบางต่อภัยธรรมชาติ และมีโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงโรงเรียนที่ด้อยกว่า จึงมักมีปัญหาทางสุขภาพที่เกิดจากสภาพแวดล้อมเหล่านี้ ทำให้ต้องขาดเรียนบ่อย ขาดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และโรงเรียนปิดบ่อยครั้งเมื่อประสบภัยธรรมชาติ เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการเรียนและผลการเรียนของนักเรียนกลุ่มเปราะบาง จากการสัมภาษณ์นักเรียนผิวสีพบว่าพวกเขาต้องการเข้าเรียนในหลักสูตรและสายอาชีพ STEM (science, technology, engineering และ mathematics) ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่ชุมชนของตนและโลกได้ดีกว่า

ในขณะที่ภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้น นักเรียนที่เข้าใจหลักเหตุและผล ผลกระทบ และแนวทางแก้ปัญหาจะมีความพร้อมที่จะเผชิญอนาคตที่ไม่แน่นอนมากกว่า ซึ่งหมายความว่าการให้ความรู้แก่นักเรียนอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยให้ความหวังแก่พวกเขามากกว่าความกังวลและสิ้นหวัง และเตรียมความพร้อมให้แก่นักเรียนเพื่อเข้าสู่กลุ่มอาชีพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอาชีพใหม่ๆในอนาคต สถานศึกษาที่ตอบสนองความกังวลของนักเรียนที่มีต่อภาวะโลกร้อนโดยตรงและเชื่อมโยงนักเรียนของตนเข้ากับพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนของตนจะสร้างความเข้มแข็งให้แก่นักเรียนได้ดี การแนะนำนักเรียนให้รู้จักกับสายงานด้านสิ่งแวดล้อมเสียแต่เนิ่นๆจะทำให้นักเรียนเข้าถึงโอกาสงานใหม่ๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสหรัฐอเมริกาบังคบใช้กฎหมาย Inflation Reduction Act (IRA) สิ่งที่ตามมาได้แก่การลงทุนขนานใหญ่ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และงบประมาณนับพันล้านดอลล่าร์ที่จะนำมาสนับสนุนสถาบันการศึกษาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ดังนั้นสถานศึกษาจึงสามารถใช้งบประมาณกลางเพื่อนำมาผลิตแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ประหยัดและคุ้มทุน นอกจากนี้ โครงการนี้ควรขยายตัวสู่ชุมชนรอบข้างที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของนักเรียนของตนไปพร้อมกัน เวลาที่ดีที่สุดที่ผู้นำด้านการศึกษาจะกลายมาเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมคือเดี๋ยวนี้ เพราะนักเรียนรอไม่ได้ อนาคตของพวกเขาขึ้นอยู่กับพวกเรา

Scroll to Top