
ร่วมเขียนโดย
Clara Arokiasamy ICOMOS-UK / ICICH / RBAWG
Sheridan Burke ICOMOS Australia / AdCom Ofcer / ISC20C
Milagros Roman Flores US ICOMOS/ ICOFORT
Patrick Chao-Shiang Li CIPA/ CIPA / ICICH / ICIP / ICTC
Kate Lim ICOMOS Philippines/ ICAHM
Lydia Loopesko US ICOMOS/ SDGWG
Laure Marique ICOMOS Belgium (IWB) / EPWG / RBAWG
Deirdre McDermott ICOMOS Ireland, AdCom Ofcer / SCTF coordinator /RBAWG
William Megarry ICOMOS Focal Point for Climate Change
Ave Paulus ICOMOS Estonia / ISCCL-IFLA / ICLAFI / SCWH / RBAWG
John Peterson US ICOMOS/ ICAHM
Mario Santana Secretary General and ICOMOS Canada
Cecilie Smith-Christensen ICOMOS Norway / SCTF
Chris Underwood ICOMOS / ICUCH
Alex Yaning Yen CIPA/ICORP
วันที่ 24 สิงหาคม 2024
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
อ้างอิง How can arts and culture work on climate justice?
การรณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเท่าเทียมอาจทำได้ทั้งในระดับปัจเจกและระดับกลุ่มในประเด็นต่อไปนี้:
1. สร้างการมีส่วนร่วมและการทำงานเป็นทีมในการจัดโครงการ ประชุม และงานอีเว้นท์ต่างๆ
ทำไมเรื่องนี้จึงเกี่ยวข้องกับความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ?
งานวิจัยและโครงการต่างๆที่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนที่ผ่านมามักได้รับทุนและ/หรือนำโดยนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้เกิดระยะห่างระหว่างกลุ่มคนที่ศึกษาเรื่องภาวะโลกร้อนและกลุ่มคนที่ได้รับประสบการณ์จากภาวะโลกร้อนโดยตรง ชุมชนเปราะบางทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นถูกมองข้ามในเวทีประชุมและวางแผนนโยบายต่างๆ ดังนั้น การจัดอีเว้นท์โดยใช้การมีส่วนร่วม การวางแผนจากล่างขึ้นสู่บน และการออกแบบแนวทางแก้ปัญหาโดยวางคนไว้เป็นจุดศูนย์กลางจะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วมและทำให้เสียงของทุกคนในงานมีความสำคัญ
เราต้องทำอย่างไรบ้าง?
- ร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นเสมอในการจัดอีเว้นท์ต่างๆ
- ร่วมมือกับคณะกรรมการระดับชาติของประเทศอื่นๆเพื่อจัดอีเว้นท์ที่มุ่งเน้นการฟังผู้อื่นและการแบ่งปันข้อมูล
- งานอีเว้นท์จะต้องมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ซึ่งอาจต้องจัดแบบไฮบริดคือมีทั้งช่องทางออนไซต์และออนไลน์
- ค้นหาปัจจัยที่ทำให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกลุ่มเปราะบางเข้ามามีส่วนร่วม โดยเน้นไปที่ช่วงเวลาและผลตอบแทน
2. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับปัจเจกด้วยการรณรงค์ในระดับปัจเจกและระดับกลุ่ม
ทำไมเรื่องนี้จึงเกี่ยวข้องกับความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ?
1% ของประชากรโลกปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นปริมาณกว่าครึ่งของปริมาณที่ปล่อยทั้งหมด ซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมและไม่เอื้อต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การลดก๊าซเรือนกระจกเป็นวิธีการเดียวที่จะปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมในระยะยาวและก่อให้เกิดความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ พวกเราในฐานะที่เป็นทั้งปัจเจกและส่วนหนึ่งของกลุ่มหรือองค์กรต่างๆจะต้องลงมือปฏิบัติทั้งส่วนตัวและร่วมกับกลุ่มหรือองค์กรที่เป็นสมาชิกอยู่เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เราต้องทำอย่างไรบ้าง?
- คำนวณ Carbon Footprint ของตัวเองและหาทางลด ตั้งเป้าหมายประจำปีและประเมินผลตนเองในทุกๆปี
- ชักชวนให้สมาชิกของคณะกรรมการที่ปรึกษาของ ICOMOS คณะทำงานเรื่องโลกร้อนของ ICOMOS และสภาวิทยาศาสตร์ในประเทศคำนวณ Carbon Footprint ของตัวเองและนำมาเทียบกับค่าเฉลี่ยต่อหัวประชากรโลก และหาทางลด ตั้งเป้าหมายในระดับประเทศและระดับนานาชาติ และประเมินผลตนเองในทุกๆปี
- ขั้นตอนสุดท้าย หาวิธีชดเชยคาร์บอนที่จำเป็นต้องปล่อย กรรมการและสมาชิกควรชดเชย Carbon Footprint ที่เกิดจากการประชุมและกิจกรรมอื่นๆของ ICOMOS เช่นด้วยการสนับสนุนทุนแก่โครงการท้องถิ่นหรือกิจกรรมที่สนับสนุนความเป็นธรรมหรือจัดการมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ
เครื่องมือที่ใช้: ทีมงานสื่อสารสาธารณะและการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ AdCom Sustainability and Communications Task Force (SCTF)
หลังจากที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมไปในปี 2020 ICOMOS ยังมุ่งปรับปรุงการสื่อสารและการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร และตั้งเป้าหมายเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2030 ดังนั้น ICOMOS จึงได้ตั้งทีมงาน AdCom Task Force ขึ้นเพื่อเตรียมกรอบดำเนินการเพื่อสนับสนุนให้สมาชิก ICOMOS ลงมือดำเนินกิจกรรมบรรเทาและตั้งรับปรับตัวต่อภาวะโลกร้อนอย่างมีส่วนร่วมและมีความหลากหลายทั้งในระดับองค์กรและระดับปัจเจก ซึ่งรวมถึงการจัดประชุมและกิจกรรมต่างๆอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและการนำเครื่องมือคำนวณ Carbon Footprints มาใช้ในองค์กร
3. ทำให้งานของ ICOMOS ทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน

ทำไมเรื่องนี้จึงเกี่ยวข้องกับความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ?
ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น วัฒนธรรม และมิทธิทางวัฒนธรรมทั่วโลกเป็นอันมากอยู่แล้ว ประชากรกลุ่มเปราะบาง ชนพื้นเมือง และชุมชนท้องถิ่นมักดำรงชีพอยู่ด้วยการเกษตรหรือประมงชายฝั่งที่เกิดความเสี่ยงจากปัญหาโลกร้อนก่อนและรุนแรงกว่าชุมชนเมือง สถานที่ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมนั้นคือถิ่นที่อยู่ของพวกเขา เป็นพื้นที่ที่ให้พวกเขาดำรงไว้ซึ่งวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเพื่อรักษาอัตลักษณ์ตัวตนไว้มิให้สูญหาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรายได้แลละอาหารที่จำเป็นเพื่อการยังชีพ เมื่อสถานที่ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะโลกร้อน ชีวิตของคนในชุมชนท้องถิ่นจึงเกิดความเสี่ยงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ภูมิคุ้มกันความเสี่ยงและความคิดสร้างสรรค์ที่แฝงอยู่ในประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาก็เป็นความหวังของสังคมในการลดความเสี่ยงเหล่านั้น ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีคือแหล่งความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจที่สามารถช่วยกำหนดนโยบายหรือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง องค์ความรู้ท้องถิ่นและภูมิปัญญาชาวบ้านจะช่วยเป็นข้อมูลเพื่อออกแบบการบรรเทา (เช่นออกแบบและก่อสร้างอาคารคาร์บอนต่ำและโครงสร้างพื้นฐานชุมชนคาร์บอนต่ำ) และตั้งรับปรับตัวต่อภาวะโลกร้อน (เช่นการใช้ศาสตร์ของชนพื้นเมืองในการติดตั้งระบบเกษตรอัจฉริยะ)
เราต้องทำอย่างไรบ้าง?
- สนับสนุนแนวทางบริหารจัดการมรดกทางวัฒนธรรมที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและใช้มนุษย์เป็นจุดศูนย์กลาง เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับสถานที่ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ใช้ความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม ความยั่งยืน และคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นเป้าหมายในนโยบายจัดการมรดกทางวัฒนธรรมระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ ซึ่งดึงเอาศักยภาพของมรดกทางวัฒนธรรมในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อภาวะโลกร้อนและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
- ภารกิจประจำวันของ ICOMOS จะต้องดำเนินงานในแบบที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ผู้คนในฐานะปัจเจกและกลุ่มสามารถดำเนินกิจกรรมทางวัฒนธรรมและอนุรักษ์สถานที่ทางวัฒนธรรมของตนไว้ ชุมชนจะต้องได้รับการบอกกล่าวและขออนุญาตก่อนที่จะมีการนำเอามาตรการที่จะมีผลกระทบต่อมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนมาใช้ และให้การสนับสนุนแก่ชุมชนผู้ถือสิทธิในด้านคำปรึกษาและการมีส่วนร่วมในกระบวนการกำหนด คัดเลือก แยกประเภท แปลความ ปกป้อง อนุรักษ์ และพัฒนามรดกทางวัฒนธรรม
- คำนึงถึงสิทธิทางวัฒนธรรมและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนและการออกแบบแนวทางบรรเทาและตั้งรับปรับตัวต่อภาวะโลกร้อน จัดลำดับความสำคัญของความต้องการของชุมชนเพื่อร่วมมือกันปกป้องทั้งชุมชนมรดกทางวัฒนธรรมมิให้สูญหายจากเหตุการณ์ผลกระทบจากวิกฤติโลกร้อน ยกตัวอย่างเช่นชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงและเร่งด่วน ได้แก่ชุมชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในแถบขั้วโลกเหนือ ชายฝั่ง และหมู่เกาะ
เพื่อตอบสนองเป้าหมายดังกล่าว ICOMOS จึงมุ่งสนับสนุนบทบาทของการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมในการแก้ปัญหาโลกร้อนระดับท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่น ICOMOS แห่งสหราชอาณาจักรต้องการกระตุ้นให้ชาวอังกฤษตอบสนองต่อวิกฤติโลกร้อนด้วยการเพิ่มบทบาทของชุมชนท้องถิ่นในงานวิจัย การกำหนดนโยบาย การพัฒนา และการบรรเทาและตั้งรับปรับตัวต่อภาวะโลกร้อน โดยการนำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมและรับฟังปัญหาของชุมชน เช่นการสูญเสียที่อยู่อาศัย ร้านค้า ไร่นา และปศุสัตว์ในสหราชอาณาจักรและประเทศใกล้เคียงทำให้บางชุมชนตกอยู่ในภาวะล้มละลายและประสบอุปสรรคในการฟื้นฟูเพราะขาดทรัพยากร
สอง จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการที่รวมเอาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดและภาคประชาสังคมมาร่วมค้นหาแนวทางแก้ปัญหาที่วางชุมชนไว้ที่จุดศูนย์กลางและให้การจัดการมรดกทางวัฒนธรรมเข้ามามีบทบาทสนับสนุน การประชุมมุ่งเน้นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้เล่าประสบการณ์ของตนเองและเสนอแนวทางแก้ไข โดย Facilitator จะใช้ภาษาพูดที่เข้าใจง่ายตลอดกระบวนการเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงและใช้หลักจริยธรรมและความโปร่งใสในการออกแบบแนวทางแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือกรณีที่ ICOMOS จัดการประชุมออนไลน์เพื่อหาแนวทางอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมตามแนวชายฝั่งโดยใช้หลักสิทธิมนุษยชน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่างๆของชุมชนและมรดกทางวัฒนธรรมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านมุมมอง ประสบการณ์ และวิถีชีวิตของชุมชน การประชุมมุ่งเน้นไปที่การอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมตามแนวชายฝั่งแบบองค์รวมทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ เคลื่อนย้ายได้และเคลื่อนย้ายไม่ได้ ที่เป็นพื้นที่และสิ่งปลูกสร้าง และที่ดินและน่านน้ำ และใช้หลักสิทธิมนุษยชน ความคิดเห็น และประสบการณ์ของชุมชนท้องถิ่นตามแนวชายฝั่งของยุโรป เช่นชุมชน Bryggen ที่กำลังจะจมทะเลและชุมชน Finno-Ugric ที่กำลังจะสูญเสียวิถีชีวิตดั้งเดิม มาใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบแนวทางแก้ปัญหา