THAI CLIMATE JUSTICE for All

การเสริมสร้างความยืดหยุ่นของแรงงานนอกระบบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในคสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีความเสี่ยง เปราะบาง เนื่องจากพวกเขามักพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติในการดำรงชีวิต ไม่มีระบบประกันที่รองภัยพิบัติ

ประเด็นสำคัญ

1. ความเปราะบาง แรงงานนอกระบบเป็นกลุ่มเปราะบางสูง เนื่องจากเข้าไม่ถึงทรัพยากรและระบบสวัสดิการจากรัฐ เช่น ประกันสุขภาพ การสนับสนุนทางการเงิน และโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรง เมื่อเผชิญกับภัยธรรมชาติ ทำให้แรงงานนอกระบบเสี่ยงสูงในการเสียชีวิต หรือประสบกับความยากจนมากขึ้น

2. ผลกระทบ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง และความร้อนจัด กระทบโดยตรงต่อการดำรงชีวิตของแรงงานนอกระบบที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น เกษตรกร ชาวประมง และผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง

การขาดการเตรียมตัวและความสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ทำให้แรงงานนอกระบบเสี่ยงสูญเสียรายได้และทรัพย์สิน

3. แนวทางในการเสริมสร้างความยืดหยุ่น ทำได้หลายวิธี เช่น

  • การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • การเพิ่มการเข้าถึงบริการพื้นฐาน เช่น น้ำสะอาด ระบบการขนส่ง และการประกันสุขภาพ
  • การสนับสนุนความรู้และทักษะปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • การสร้างกลไกสนับสนุนการเงินและประกันภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง

4. นโยบายและการสนับสนุนจากภาครัฐ

เช่น การจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือฉุกเฉิน การให้การศึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติ และการปรับโครงสร้างการพัฒนาให้ครอบคลุมและตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มแรงงานนอกระบบ

กรณีศึกษา

1. โครงการ MGNREGA ในอินเดีย

โครงการ Mahatma Gandhi National Rural Employment Guarantee Act (MGNREGA) ในอินเดียเป็นนโยบายสร้างงานให้กับแรงงานนอกระบบในชนบท โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ งานที่จัดให้ในโครงการนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เช่น การสร้างบ่อน้ำ การปลูกป่า และการก่อสร้างระบบชลประทาน ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากภัยแล้งและน้ำท่วม ผลลัพธ์ที่ได้คือ โครงการนี้ช่วยสร้างงานให้กับคนจำนวนมากในชนบทและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับชุมชนในระยะยาว

2. โครงการ “Climate Resilient Livelihoods” ในบังกลาเทศ

มุ่งพัฒนาทักษะและสร้างความยืดหยุ่นให้กับแรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรและชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลและภัยแล้ง โครงการจัดฝึกอบรมเกษตรกรใช้วิธีเพาะปลูกที่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง รวมถึงการใช้เมล็ดพันธุ์ที่ทนทานต่อเกลือ และการแนะนำเทคนิคการเก็บน้ำในฤดูฝน เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตและลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การสนับสนุนทางการเงินและประกัน

รัฐบาลเคนยาร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศได้จัดตั้งโครงการประกันภัยสำหรับแรงงานนอกระบบที่ทำงานในภาคเกษตรและปศุสัตว์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เช่น ภัยแล้งและน้ำท่วม โครงการนี้ใช้ระบบการจ่ายเงินอัตโนมัติเมื่อเกิดภัยพิบัติ ซึ่งช่วยให้แรงงานได้รับเงินช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและสามารถฟื้นตัวจากความสูญเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ แรงงานในพื้นที่ชนบทที่ได้รับการคุ้มครองจากโครงการนี้สามารถดำรงชีวิตและดำเนินงานต่อไปได้แม้จะเกิดภัยธรรมชาติขึ้น ลดการสูญเสียรายได้และทรัพย์สินของครอบครัวได้อย่างมีนัยสำคัญ

4. กรณีศึกษาแรงงานนอกระบบในภาคเมือง

4.1 โครงการ E-Waste Recycling ในเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย

ในเมืองลากอส ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา แรงงานนอกระบบจำนวนมากมีบทบาทในการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ซึ่งเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพ เนื่องจากสารเคมีและโลหะหนักที่พบในขยะเหล่านี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โครงการที่ดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับท้องถิ่นและนานาชาติได้เข้ามาช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของแรงงานนอกระบบในเมืองนี้ ผ่านการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัยและการใช้เครื่องมือที่ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังจัดหาอุปกรณ์ป้องกันให้กับแรงงานเพื่อลดการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย

โครงการนี้ไม่เพียงช่วยให้แรงงานนอกระบบในลากอสสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยขึ้น แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่เหมาะสมได้อย่างมีนัยสำคัญ แรงงานสามารถปรับตัวและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.2 โครงการปรับปรุงตลาดนัดในเมืองดาร์ เอส ซาลาม ประเทศแทนซาเนีย ตลาดนัดในเมืองเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับแรงงานนอกระบบจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ฝนตกหนักและน้ำท่วม กระทบการดำเนินงานของตลาดเหล่านี้อย่างมาก โครงการปรับปรุงตลาดนัดซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรพัฒนาเอกชนและหน่วยงานของรัฐ มุ่งเน้นการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ยืดหยุ่นมากขึ้นต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น การปรับปรุงระบบระบายน้ำ การสร้างหลังคาที่ทนทานต่อสภาพอากาศ และการจัดการขยะอย่างยั่งยืน

โครงการนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับแรงงานนอกระบบที่ทำงานในตลาดนัด และยังช่วยลดการหยุดชะงักในการทำธุรกิจของแรงงานเมื่อเกิดฝนตกหนักหรือน้ำท่วม ทำให้แรงงานสามารถรักษารายได้และสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาได้ดีขึ้น

4.3 โครงการความยืดหยุ่นด้านความร้อนสำหรับคนงานกลางแจ้งในเมืองเม็กซิโกซิตี้ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทบแรงงานนอกระบบที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น คนงานก่อสร้างและผู้ขายของข้างถนน โครงการความยืดหยุ่นด้านความร้อนในเมืองนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องแรงงานจากความร้อนจัด ด้วยการจัดหาน้ำดื่ม สถานที่พักผ่อนชั่วคราวในจุดต่าง ๆ ของเมือง รวมถึงให้ความรู้ป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับความร้อน

โครงการช่วยลดจำนวนการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากความร้อนในกลุ่มแรงงานนอกระบบที่ทำงานกลางแจ้งในเม็กซิโกซิตี้ และยังช่วยเพิ่มความตระหนักรู้และทักษะในการป้องกันความเสี่ยงจากความร้อนให้กับแรงงาน สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นแม้ในช่วงที่อุณหภูมิสูง

บทสรุป

การเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับแรงงานนอกระบบเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งจากภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ และชุมชนท้องถิ่น การดำเนินนโยบายและโครงการต่าง ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของแรงงานนอกระบบในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างถูกต้องและทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นคงให้กับชีวิตของแรงงานเหล่านี้ได้ในระยะยาว

กรณีศึกษาจากทั้งชนบทและเขตเมืองทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า ความยืดหยุ่นสามารถเสริมสร้างได้ผ่านการให้การศึกษา การพัฒนาทักษะ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน และการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้แรงงานนอกระบบสามารถดำรงชีวิตและทำงานได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืนในอนาคต


อ้างอิง

1. ILO, “Climate Change and Informal Workers: Understanding the Vulnerabilities,” 2022.

2. UNDP, “Building Climate Resilience in Informal Workers,” 2021.

3. World Bank, “Kenya Climate Smart Agriculture Project,” 2020.

4. Lagos State Government, “E-Waste Recycling Initiative,” 2021.

5. Tanzania Development Trust, “Dar es Salaam Market Improvement Project,” 2020.

6. Mexico City Government, “Heat Resilience Project for Outdoor Workers,” 2022.

Scroll to Top