THAI CLIMATE JUSTICE for All

วิถีชุมชนกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่ฯ กับการปรับตัวการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เมื่อวันพุธ 5 กันยายน ที่ผ่านมา ผมกฤษฎา บุญชัย ได้ไปร่วมให้ข้อคิดเห็นต่อโครงการพลิกฟื้นวิธีนิเวศสังคมกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่ท่ากลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งโครงการนี้ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย

ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ผมได้เป็นที่ปรึกษาให้กับสถาบันโภชนาการ มหิดล ช่วยออกแบบกรอบการวิเคราะห์และลงพื้นที่ศึกษาวิถีชีวิตชุมชนกะเหรี่ยงกับการปรับตัวสภาพภูมิอากาศ

ชุมชนกะเหรี่ยงทั้งบ้านเสน่ห์พ่อง เกาะสะเดิ่ง ในตำบลไร่โว่เป็นชุมชนที่ผมรู้จักและผูกพันมาตั้งแต่ปี 2535

กลับมาตอนนี้จึงเป็นการกลับมาพบกับชุมชนเก่าแก่ที่ผูกพันมานาน และยังเป็นชุมชนที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ถึงนิเวศน์ชาติพันธุ์อันลึกซึ้งอยู่เสมอ

ในบทสรุปของโครงการท่ามกลางปัจจัยเปลี่ยนแปลงต่างๆรวมทั้งสภาพภูมิอากาศ ชุมชนที่ผูกพันกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดได้อยู่ห่างไกลกว่าความเจริญภายนอกจะเข้าไปถึงอย่างเช่นบ้านเกาะสะเดิ่งมีปราการป้องกันทางนิเวศวัฒนธรรม ทำไมไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมากนัก ยังคงธำรงวิถีนิเวศชาติพันธุ์พึ่งตนเองด้านอาหารบนฐานไร่หมุนเวียนได้อย่างเข้มแข็ง แม้จะถูกบีบจากนโยบายป่าไม้ของรัฐที่จำกัดพื้นที่ไร่หมุนเวียนอย่างเข้มงวด

ขณะที่บ้านเสน่ห์พ่องที่เป็นด่านหน้าของความเจริญต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงสูงทำให้มีการปรับตัวค่อนข้างสูงเช่นกัน

สะท้อนออกมาในรูปของการพึ่งตนเองด้านอาหารที่เริ่มต้องพึ่งพาเศรษฐกิจอาหารจากภายนอก

สิ่งที่ได้เรียนรู้อีกประการหนึ่งคือการตกอยู่ภายใต้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่อันเป็นระบบเขตป่าอนุรักษ์ที่เข้มงวดแต่ก็ยังยืดหยุ่นให้กับวิถีนิเวศชุมชน ทำให้เห็นว่าการอนุรักษ์ป่ากับการคุ้มครองสิทธิชุมชนเมื่อประสานเป็นพลังบวกเข้าด้วยกันย่อมเป็นป้อมปราการทางวัฒนธรรมและทางกฎหมายป่าไม้ที่ทำให้ทั้งป่าไม้และวิถีชุมชนดำรงอยู่ด้วยกันได้ดี เป็นทางออกที่เหมาะสมกว่าการขับไล่หรือละเมิดสิทธิชุมชนดังเช่นในอีกหลายพื้นที่

ขอขอบคุณคณะวิจัยจากสถาบันโภชนาการมหิดลไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ยุ้ยหัวหน้าโครงการ อาจารย์โสฬส อาจารย์เล็ก กุลวดี ที่ปรึกษาและทีมวิจัยน้อง ๆ ที่เปรียบเสมือนลูกศิษย์ของผมโดยกลาย ๆ

มิตรภาพ การเรียนรู้และการขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็งวิถีชุมชนชาติพันธุ์จะเป็นวิถีร่วมของเราตลอดไปครับ

Scroll to Top