THAI CLIMATE JUSTICE for All

หลักสูตร: “Climate Justice Education Initiative” (CJEI)

ประเทศสกอตแลนด์ ได้พัฒนา Climate Justice Education Initiative (CJEI) เพื่อสร้างความเข้าใจในประเด็น ความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Justice) ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นแบบที่สามารถเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับความเท่าเทียมทางสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

1. ที่มาของหลักสูตร

หลักสูตรนี้ริเริ่มในปี 2018 โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสกอตแลนด์, องค์กร Climate Outreach และ UNESCO Schools Network มีเป้าหมายสนับสนุน Sustainable Development Goals (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 13 (Climate Action) และ SDG 10 (Reduced Inequalities)

แรงบันดาลใจในการพัฒนา: การวิจัยในปี 2017 โดย Climate Outreach พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ในสกอตแลนด์เข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเชิงวิทยาศาสตร์ แต่ขาดความเข้าใจในมิติทางสังคม เช่น ความไม่เท่าเทียมในการได้รับผลกระทบระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน

2. เป้าหมายของหลักสูตร

1. พัฒนาความเข้าใจในประเด็นความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ

  • ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าใครได้รับผลกระทบมากที่สุดและเหตุใด
  • สร้างความเชื่อมโยงระหว่างพฤติกรรมการบริโภคของคนในประเทศพัฒนาแล้วกับผลกระทบในประเทศกำลังพัฒนา

2. สร้างความตระหนักรู้และความรับผิดชอบ

  • สร้างจิตสำนึกในบทบาทพลเมืองโลก
  • ปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

3. ส่งเสริมการแก้ปัญหาแบบองค์รวม

  • นักเรียนเรียนรู้การพัฒนานโยบายและแนวทางแก้ปัญหาที่รวมมิติของความเท่าเทียมและความยั่งยืน

4. สร้างผู้นำเยาวชนด้านความยั่งยืน

  • พัฒนาทักษะการเป็นผู้นำผ่านการออกแบบและดำเนินโครงการจริงในโรงเรียนและชุมชน

3. วิธีการเรียนการสอน

3.1 การเรียนรู้ผ่านกรณีศึกษา (Case Studies)

นักเรียนได้ศึกษาเหตุการณ์จริง เช่น:

  • ผลกระทบของ น้ำท่วมในบังกลาเทศ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • ผลของ การละลายของน้ำแข็งในอาร์กติก ที่มีต่อชนพื้นเมืองและสัตว์ป่า
  • ความขัดแย้งทางทรัพยากรในแอฟริกา เช่น น้ำและพลังงาน
  • นักเรียนต้องวิเคราะห์ต้นเหตุของปัญหา ผลกระทบ และความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น พร้อมเสนอแนวทางแก้ไข

3.2 การใช้เทคโนโลยีเพื่อความเข้าใจ (Technology-Enhanced Learning)

  • ใช้ Climate Data Visualization Tools เพื่อดูข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับผลกระทบของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • ใช้แอปพลิเคชัน Carbon Footprint Calculators เพื่อคำนวณผลกระทบของการบริโภคส่วนตัว

3.3 การเรียนรู้ผ่านโครงการ (Project-Based Learning)

นักเรียนถูกแบ่งกลุ่มเพื่อออกแบบ โครงการที่ตอบโจทย์ความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ เช่น การลดขยะในโรงเรียน หรือการให้ความรู้ในชุมชนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

3.4 กิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ (Experiential Learning)

  • นักเรียนได้พบกับตัวแทนจากประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ผู้หญิงในชนบทของแอฟริกา ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเอเชีย
  • มีการจัด Climate Justice Workshops เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างนักเรียนจากสกอตแลนด์และประเทศกำลังพัฒนา

3.5 ศิลปะและการสื่อสาร (Art & Communication)

นักเรียนสร้างผลงานศิลปะ เช่น การเขียนบทกวีเกี่ยวกับผลกระทบของสภาพภูมิอากาศ หรือการสร้างคลิปวิดีโอสั้นเพื่อรณรงค์เรื่องความเป็นธรรม

4. ผลลัพธ์ของหลักสูตร

4.1 ด้านความรู้

  • นักเรียนเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึง ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาสิ่งแวดล้อมและความเท่าเทียมทางสังคม
  • สามารถวิเคราะห์นโยบายและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่มุ่งเน้นความยั่งยืน

4.2 ด้านพฤติกรรม

  • นักเรียนเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ลดการบริโภคที่เกินความจำเป็น, เลือกใช้พลังงานสะอาด และสนับสนุนสินค้ายั่งยืน
  • เกิดโครงการริเริ่มในโรงเรียน เช่น การตั้งสถานีรีไซเคิล หรือโครงการลดการใช้พลังงาน

4.3 ด้านผลกระทบชุมชน

  • นักเรียนจัดกิจกรรมให้ความรู้ในชุมชน เช่น การให้ข้อมูลเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดขยะ
  • หลายโครงการได้รับการนำไปขยายผลในระดับชุมชน เช่น การสร้างพื้นที่สีเขียวในเมือง

4.4 การพัฒนาผู้นำเยาวชน

  • นักเรียนบางคนกลายเป็นนักเคลื่อนไหวในท้องถิ่น เช่น การรณรงค์เรื่องการลดคาร์บอนในเขตเทศบาล
  • บางคนเลือกเรียนต่อในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น สิ่งแวดล้อมศึกษา หรือการพัฒนาที่ยั่งยืน

เสียงสะท้อนจากนักเรียน

เจสสิก้า (อายุ 15 ปี):

“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการซื้อเสื้อผ้าจากร้านฟาสต์แฟชั่นอาจส่งผลกระทบต่อผู้หญิงในบังกลาเทศ ฉันรู้สึกว่าหลักสูตรนี้ทำให้ฉันมองโลกในมุมใหม่และช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมของฉันเอง”

คาเมรอน (อายุ 16 ปี):

“โครงการที่เราทำในชุมชนทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีพลังในการสร้างความเปลี่ยนแปลง หลักสูตรนี้ไม่ใช่แค่ให้ความรู้ แต่ช่วยให้ผมเห็นว่าผมสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาได้”


อ้างอิง

1. Climate Outreach. (2017). Bridging the Gap: Climate Education and Social Justice. Retrieved from climateoutreach.org

2. Scottish Government. (2018). Climate Justice Education: A Framework for Schools.

3. UNESCO. (2019). Learning for a Sustainable Future: Case Studies in Education for Climate Justice.

4. Oxfam Scotland. (2020). Teaching Climate Justice: Resources for Educators.

หลักสูตรนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า การศึกษาไม่ได้เป็นเพียงการให้ความรู้ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจและทักษะในการลงมือเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศในระยะยาว.

Scroll to Top