
วันนี้ที่ TCJA โดยผมกฤษฎา บุญชัย และณัฐธิดา รัตนสวัสดิ์ (กะติ๊บ) ได้รับเชิญจาก ดร.บัณฑูร พานแก้ว คณะวารสารศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาบรรยายให้กับนักศึกษาปริญญาโท ในวิชา วจ.671 “ความรับผิดชอบต่อสังคมและการ พัฒนาที่ยั่งยืน” ด้วยหัวข้อ “การรณรงค์ การสื ่อสารต่อการปรับตัวกับสภาพภูมิอากาศขององค์การนอก ภาครัฐ”
ผมได้เริ่มต้นจากการอธิบายปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในความเป็นปัญหาที่ซับซ้อน (wicked problems) อยากหาที่มายากกำหนดขอบเขต ยากแก้ไขในระยะสั้น และยากที่จะเข้าใจ
เพื่อโยงให้เห็นว่าความท้าทายด้านการสื่อสารกับปัญหาดังกล่าวมีแง่มุมอะไรบ้างไม่ว่าจะเป็น การผูกขาดคำอธิบายแบบวิทยาศาสตร์ การลดทอนความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและสังคม การขาดมิติความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ
พร้อมกับเล่าบทเรียนการรณรงค์สื่อสารจากต่างประเทศและการขับเคลื่อนของ TCJA เอง
ณัฐธิดาได้มาชวนคุยประสบการณ์การสื่อสารกับคนรุ่นใหม่และการทำกิจกรรมสร้างการเรียนรู้คนรุ่นใหม่ ที่ควรเลือกใช้รูปธรรมที่เด็กสนใจเช่นสัตว์และสิ่งมีชีวิต การโยงให้เข้ากับปัญหาในชีวิตประจำวัน การเชื่อมโยงให้เห็นมิติเชิงโครงสร้างแต่ก็เห็นความชัดเจนในการขับเคลื่อน
ณัฐธิดายังได้จัดกระบวนการกลุ่มด้วยการให้แต่ละกลุ่มออกแบบกิจกรรมที่ตอบโจทย์เช่นเชื่อมโยงกับปัญหาเชิงโครงสร้าง เชื่อมโยงกับมิติทางนิเวศเศรษฐกิจสังคมและผู้คนที่หลากหลาย หารูปธรรมการสื่อสารที่มีพลังและโยงกับแนวคิด SDGs
น้อง ๆ นักศึกษา 17 คน ออกแบบข้อเสนอน่าสนใจมากครับไม่ว่าจะเป็นปัญหาพะยูนที่ถูกแปลงเป็นไอคอน “เนปยูน” ในการรณรงค์ ปัญหา ร่าง พรบ.ประมง มาตรา 69 เรื่องการใช้อวนตาทีจับปลาในเวลากลางคืน โดยชูแนวคิดเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของย่าน ท้องถิ่นชุมชน ที่มีนายทุนข้างนอกเข้ามาครอบครองทรัพยากร สร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม และบทบาทคนรุ่นใหม่ และปัญหาการจัดการเมือง ที่ต้องมีการออกแบบใหม่เชื่อมโยงกับผังเมืองในการสร้างเมืองนิเวศที่เป็นธรรมทางสังคม
ทุกเรื่องราวมีนัยเรื่องความเป็นธรรมดังสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นธรรมต่อธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต ความเป็นธรรมระหว่างรุ่น ความเป็นธรรมในการจัดการพื้นที่และทรัพยากร ฯลฯ
ทุกเรื่องราวเชื่อมโยงกับปัญหาเมื่อสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายซึ่งโดยมากจะเป็นคนรุ่นใหม่สนใจและโยงกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่สอดแทรกหลักคิดความเป็นตามสภาพภูมิอากาศ
หวังว่าน้องๆจะไปพัฒนาเป็นโครงการที่ทำงานขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
แม้ว่าจะทำงานกันหลากหลายสาขา แต่ทุกคนล้วนเป็นพลเมืองตื่นรู้ผู้วิกฤตโลกร้อน







