
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนาได้รับเชิญเข้าร่วมการสัมมนาเพื่อหารือแนวทางบูรณาการหลักสิทธิมนุษยชนเข้ากับการพัฒนากฎหมาย นโยบาย และมาตรการในการแก้ไขวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ร่วมกับ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ บางกอก พระนคร โดยมีผู้เข้าร่วมจากภาคประชาสังคม นักวิชาการ และเครือข่ายชนพื้นเมืองราว 40 คน
ประเด็นสำคัญจากการสัมมนา
ช่วงเช้าเริ่มต้นด้วยการบรรยายเกี่ยวกับ กฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนและแนวทางปฏิบัติระดับโลก โดย ศาสตราจารย์เอลิซ่า มอร์เกรา ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) กับความท้าทายในการนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
จากนั้น กสม. ได้นำเสนอข้อเสนอแนะด้านกฎหมายและแนวปฏิบัติ พร้อมเปิดเวทีให้ภาคประชาสังคมและนักวิชาการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่างกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเน้นประเด็นสำคัญ ได้แก่
• มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
• แนวทางการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
• การเข้าถึงความยุติธรรมและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
• กลไกบริหารและกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ
เสียงสะท้อนส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังขาดความพร้อมและความชัดเจนเพียงพอ อาจนำไปสู่ปัญหาในการบังคับใช้และซ้ำเติมข้อจำกัดของกฎหมายที่มีอยู่เดิม ทำให้จำเป็นต้องทบทวนร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างรอบคอบก่อนการดำเนินการต่อไป
ช่วงบ่ายการอภิปรายเน้นไปที่ โครงสร้างเศรษฐกิจที่ยังพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล พลังงานหมุนเวียน และแร่ธาตุสำคัญ โดยผู้เข้าร่วมได้นำเสนอข้อมูลและข้อคิดเห็นเชิงประสบการณ์จากการทำงานจริงของแต่ละองค์กร ซึ่งข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้ในประเด็นเชื้อเพลิงฟอสซิล ศาสตราจารย์เอลิซ่า มอร์เกรา จะนำไปจัดทำรายงานเผยแพร่และไปอภิปรายที่เจนีวาในเดือนกรกฎาคม ส่วนรายงานเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนจะเผยแพร่ในเดือนสิงหาคม เพื่ออภิปรายในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) ที่นิวยอร์ก และกล่าวทิ้งท้ายว่ายินดีจะผลักดันให้เกิดการหารือในเวที COP หรือเวทีอื่น ๆ ต่อไป
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงหลักสิทธิมนุษยชนเข้ากับการพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
ขอบคุณภาพจาก: สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)


