THAI CLIMATE JUSTICE for All

เปลี่ยนความตื่นตัวเป็นพลังเปลี่ยนโลก: บทเรียนจาก Hahrie Han เพื่อขบวนการเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เปลี่ยนความตื่นตัวเป็นพลังเปลี่ยนโลก: บทเรียนจาก Hahrie Han เพื่อขบวนการเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในโลกยุคโซเชียล ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม (social movement) ดูจะเกิดขึ้นง่ายดายกว่าทุกยุคสมัยที่ผ่านมา แค่แฮชแท็กดี ๆ หนึ่งคำ หรือคลิปไวรัลหนึ่งนาที ก็อาจระดมผู้คนได้เป็นหมื่นเป็นแสนในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ตั้งแต่ #BlackLivesMatter, #MeToo, ไปจนถึงการเดินขบวน Fridays for Future, Youth Climate Strike หรือ Extinction Rebellion ที่แพร่หลายทั่วโลก

ขบวนการเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศมีบทบาทสำคัญในหลายประเทศในการผลักดันรัฐบาลให้ตระหนักถึงวิกฤตของโลก ตั้งแต่การประกาศภาวะฉุกเฉินทางสิ่งแวดล้อม การตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ไปจนถึงการปฏิรูประบบพลังงาน

ในขณะที่หลายกิจกรรมสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ก็มีจำนวนไม่น้อยที่จางหายหรือไม่สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างได้

คำถามใหญ่จึงตามมาว่า

“ทำไมบางขบวนการจึงเปลี่ยนโลกได้ ขณะที่บางขบวนการกลับจางหายไปโดยไม่มีใครจำได้?”

👩‍🏫 เสียงจาก Hahrie Han: จากไวรัลสู่การเปลี่ยนแปลงจริง

Hahrie Han ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ได้ศึกษาขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมมาเกินกว่า 20 ปี โดยพยายามหาคำตอบว่า อะไรทำให้บางขบวนการมี “อิทธิพลเชิงโครงสร้าง” ขณะที่บางขบวนการแค่ “สร้างเสียงในช่วงสั้น” (Han, 2014; Han et al., 2021)

Han พบว่า ขบวนการที่ทรงพลังไม่ใช่แค่ขบวนการที่ดึงคนจำนวนมากมารวมกันในเวลาอันสั้น แต่คือขบวนการที่สามารถ สร้างพื้นที่ให้คนธรรมดากลายเป็นผู้นำ และพัฒนาความสัมพันธ์ลึกภายในกลุ่ม จนสามารถยืนหยัดท่ามกลางแรงต้าน และผลักดันนโยบายอย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว

🌱 จาก Possible → Probable → Powerful: โมเดลการมีส่วนร่วมที่ทรงพลัง

Han เสนอโมเดล 3 ขั้นตอนในการมีส่วนร่วมทางสังคม

1. Possible ทำให้การมีส่วนร่วม “เป็นไปได้” ผ่านกิจกรรมที่เข้าถึงง่าย เช่น การแบ่งปันเรื่องราวส่วนตัว การร่วมกิจกรรมศิลปะชุมชน หรือเวทีพูดคุยที่ไม่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง

2. Probable ทำให้ผู้คน “มีแนวโน้มจะเข้าร่วม” โดยเชื่อมโยงประสบการณ์ของเขากับอารมณ์ เช่น ความโกรธต่อความไม่เป็นธรรม ความหวังในการเห็นโลกที่ดีกว่า หรือความกลัวอนาคตที่เปราะบางจากวิกฤตภูมิอากาศ

3. Powerful ทำให้การมีส่วนร่วม “ส่งผลจริง” ด้วยการมอบความรับผิดชอบ ฝึกทักษะ และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกลายเป็นผู้นำ เช่น การวิเคราะห์นโยบาย การเป็นวิทยากร หรือการจัดกิจกรรมเอง

กรณีของ Sunrise Movement ในสหรัฐฯ ที่อบรมเยาวชนให้เป็นนักจัดเวทีและนักสื่อสารเรื่อง Green New Deal เป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนเยาวชนธรรมดาให้กลายเป็นนักเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ระดับประเทศ (Han, 2021)

⚖️ Mobilizing ≠ Organizing Han ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง

Mobilizing (การปลุกระดม) เน้นการชุมนุม แชร์โพสต์ หรือกิจกรรมไวรัลที่สร้างพลังในช่วงสั้น

Organizing (การจัดตั้ง) เน้นการพัฒนาเครือข่าย การเรียนรู้ระยะยาว และการเปลี่ยนผู้เข้าร่วมให้กลายเป็นผู้นำท้องถิ่นที่มีพลังต่อเนื่อง

“ไวรัลไม่ใช่ชัยชนะ” คือประโยคที่ Han ย้ำเสมอ ขบวนการที่แข็งแรงคือขบวนการที่สร้างความไว้วางใจ การเรียนรู้ และเป้าหมายร่วม ไม่ใช่เพียงยอดไลก์หรือคนในม็อบ (Han et al., 2021)

🌍 บทเรียนจากต่างประเทศ อะไร work อะไรไม่ work

✅ กรณีที่ประสบความสำเร็จ

  • Climate Assembly UK ประชาชน 100 คนร่วมออกแบบนโยบายลดคาร์บอนกับรัฐบาล → รู้สึกเป็นเจ้าของกระบวนการจริง (Climate Assembly UK, 2020)
  • Aotearoa Climate Justice (New Zealand) เยาวชนผนึกกำลังกับชนพื้นเมือง Māori → เกิดพลังข้ามรุ่นและข้ามวัฒนธรรม สร้างฐานที่เข้มแข็ง (Greenpeace NZ, 2021)
  • Ecuador สิทธิของธรรมชาติ ชาวบ้านใน Cuenca ยื่นฟ้องให้แม่น้ำมีสิทธิตามกฎหมาย และชนะ → จาก organizing ระดับชุมชนสู่ผลสะเทือนระดับรัฐ (Kauffman & Martin, 2021)
  • Fresno Clean Air Campaign (USA) แม่บ้านกลายเป็นนักรณรงค์สิ่งแวดล้อม ด้วยการฝึกให้เข้าใจระบบรัฐและเจรจาได้ (Han, 2014)
  • Teal Independents (Australia) ประชาชนจัดเวทีพูดคุยในบ้านตนเอง สร้างนโยบายร่วมกัน → ส่งผู้สมัครอิสระชนะเลือกตั้ง (Han et al., 2021)

❌ กรณีที่หยุดชะงัก

  • Fridays for Future (บางประเทศ) แม้ระดมคนได้มาก แต่ขาดโครงสร้างส่งต่อและการเติบโตของผู้นำท้องถิ่น → จางหายเมื่อกระแสลดลง (Pleyers, 2020)
  • Sunrise Movement (บางช่วง) จาก organizing กลายเป็น mobilizing เมื่อขาดการฝึกผู้นำรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง (Han et al., 2021)
  • Yellow Vests (ฝรั่งเศส) รวมคนหลากหลายแต่ขาดเป้าหมายร่วม → ขบวนการแตกแยกและจบลงเร็ว (Barry & Bessant, 2022)

🔚 สรุป การเปลี่ยนแปลงต้องเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นเจ้าของพลัง

Hahrie Han ย้ำว่า

“ขบวนการที่ทรงพลังที่สุด ไม่ใช่ขบวนการที่ทำให้คนเข้าร่วม

แต่คือขบวนการที่ทำให้คนธรรมดารู้สึกว่าเขาคือผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงนั้นได้จริง”

เมื่อเทคโนโลยีทำให้ทุกคนมีเสียง เสียงที่เปลี่ยนโลก ไม่ใช่เสียงที่ดังที่สุด แต่คือเสียงที่มีคนฟัง เข้าใจ และเติบโตไปด้วยกัน


🔖 อ้างอิง

Han, H. (2014). How Organizations Develop Activists: Civic Associations and Leadership in the 21st Century. Oxford University Press.

Han, H., McKenna, E., & Oyakawa, M. (2021). Prisms of the People: Power and Organizing in Twenty-First-Century America. University of Chicago Press.

Climate Assembly UK. (2020). The Path to Net Zero. https://www.climateassembly.uk/

Greenpeace New Zealand. (2021). Māori Voices in Climate Action. https://www.greenpeace.org.nz

Kauffman, C. M., & Martin, P. L. (2021). The Politics of Rights of Nature: Strategies for Building a More Sustainable Future. MIT Press.

Pleyers, G. (2020). Youth and Climate Mobilization in Europe. Social Movement Studies.

Barry, J., & Bessant, J. (2022). Post-populist Politics and the Challenge of Green Transition. Environmental Politics.

ภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Climate_movement

Scroll to Top