THAI CLIMATE JUSTICE for All

คุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพ

เผยแพร่โดย Sustainability Directory
วันที่   20 เมษายน 2025
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
อ้างอิง  What Are the Cultural Values of Biodiversity? → Question

หลักการขั้นพื้นฐาน

ความหลากหลายทางชีวภาพในรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุดคือสรรพชีวิตบนโลก รวมตั้งแต่สิ่งมีชีวิตในระดับยีนไปจนถึงระบบนิเวศทั้งหมด เป็นเครือข่ายสายใยที่สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมมีปฏิสัมพันธ์กัน เมื่อเราพูดถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพ เรากำลังพูดถึงสิ่งที่เหนือไปจากนิยามทางวิทยาศาสตร์เพื่อสำรวจว่าสังคมมนุษย์เข้าใจ มีปฎิสัมพันธ์ และพึ่งพาความหลากหลายทางชีวภาพอย่างไร คุณค่าเหล่านี้มิได้มีเพียงแค่คุณค่าที่จับต้องได้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสายสัมพันธ์ที่จับต้องไม่ได้ที่ทำให้เรามีตัวตน วัฒนธรรม และวิสัยทัศน์ที่มีต่อโลกขึ้นมา

ในระดับพื้นฐานแล้ว คุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพฝังรากลึกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เป็นเวลานับพันปีที่สังคมพึ่งพาธรรมชาติเพื่อหาอาหาร ที่อยู่ ยารักษาโรค และที่พึ่งทางจิตวิญญาณ การพึ่งพาดังกล่าวทำให้มนุษย์สำนึกในประโยชน์ของความหลกาหลายอย่างลึกซึ้งดังที่เราได้เห็นสะท้อนจากพิธีกรรม ตำนาน ศิลปะ และประเพณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมชนพื้นเมืองที่มองว่ามนุษย์มีความผูกพันกับธรรมชาตอย่างลึกซึ้งและมองว่าความหลากหลายทางชีวภาพเป็นสิ่งจำเป็นต่อความอยู่รอดและคุณภาพชีวิตของพวกเขา

ยกตัวอย่างเกี่ยวกับการแพทย์พื้นบ้าน ในทุกวัฒนธรรม พืชและส่วนของสัตว์ถูกใช้เป็นยารักษาโรคและอาการบาดเจ็บ กรรมวิธีนี้ไม่ได้มีแต่เพียงการสกัดเอาตัวยาออกมาจากวัตถุดิบเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับองค์ความรู้ท้องถิ่น ความเชื่อด้านจิตวิญญาณ และความเข้าใจระบบนิเวศท้องถิ่นอย่างลึกกซึ้ง ดังนั้น การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพจึงมิได้เป็นเพียงแค่ความสูญเสียเชิงชีวภาพ แต่ยังเป็นความสูญเสียทางวัฒนธรรมด้วยเพราะทำลายระบบภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณี และการเข้าถึงทรัพยากร

วิสัยทัศน์เชิงนามธรรมเน้นให้เราเห็นถึงความเร่งด่วนของการลงมือแก้ไขปัญหาโลกร้อนผ่านทั้งภาพของระบบนิเวศกำลังเสื่อมโทรมและความเป็นไปได้ที่จะฟื้นฟูมันขึ้นมาใหม่ ธรรมชาติหลากสีสันทำให้เรานึกถึงความทนทานต่อภัยพิบัติ ผลกระทบจากภัยธรรมชาติกระตุ้นให้เราเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในภาคพลังงาน การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และการจัดการของเสีย

ความหลากหลายทางชีวภาพที่เป็นรากฐานของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม

ความหลากหลายทางชีวภาพมิใช่สิ่งที่อยู่นิ่งกับที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มันมีพลวัติและวิวัฒน์อยู่เสมอเช่นเดียวกับวัฒนธรรมเอง ภูมิประเทศที่เราอาศัยอยู่ พืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ร่วมกันกับเราในภูมิประเทศนั้น และวงจรธรรมชาติของพื้นที่หลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ความคิดเกี่ยวกับสัญลักษณ์เชิงธรรมชาติ ซึ่งส่วนมากจะเป็นพืชหรือสัตว์ที่เป็นตัวแทนลักษณะและค่านิยมของชาติ สัญลักษณ์เหล่านี้มิได้ถูกเลือกมาตามอำเภอใจ แต่สะท้อนถึงมรดกทางธรรมชาติของพื้นที่นั้นๆ ความหลากลายทางชีวภาพเป็นตัวกำหนดความมั่นคงทางอาหารของเราด้วย วัฒนธรรมต่างๆได้พัฒนาวิธีการทำเกษตรและอาหารประจำชาติของตนเองขึ้นมาโดยมีความหลากลายทางชีวภาพในท้องถิ่นเป็นตัวกำหนด ดังนั้นการสูญเสียความหลากลายทางชีวภาพจึงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางอาหารและประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น

ความสำคัญเชิงจิตวิญญาณและความเชื่อ

ในหลายวัฒนธรรมมีการใช้พืช สัตว์ หรือสถานที่ทางธรรมชาติอธิบายเรื่องจิตวิญญาณและความเชื่อ และความเชื่อเช่นนี้สามารถนำไปสู่การอนุรักษ์ธรรมชาติและกำหนดความสัมพันธ์เชิงจริยธรรมกับธรรมชาติได้

ศิลปะและสุนทรียศาสตร์

                ธรรมชาติในรูปแบบที่หลากหลายทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างงานศิลปะ นับตั้งแต่ภาพบนฝาผนังถ้ำในยุคก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงศิลปะร่วมสมัย ความหลากหลายทางชีวภาพให้คุณค่าทางสุนทรียะที่ทำให้การแสดงออกทางอารมณ์ของมนุษย์มีความลุ่มลึกขึ้น

การทำความเข้าใจคุณค่าเชิงวัฒนธรรมขั้นพื้นฐานของความหลากหลายทางชีวภาพเป็นจุดเริ่มต้นการเรียนรู้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น เป็นเรื่องของความเข้าใจว่าธรรมชาติมิได้เป็นเพียงแหล่งทรัพยากรที่นั่งรอคนมาขุดเจาะไปใช้ แต่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมและวัฒนธรรมที่กำหนดตัวตนและวิถีชีวิตของเรา

หลักการขั้นกลาง

หลังจากที่เราทำความเข้าใจหลักการขั้นพื้นฐานแล้ว เราจะเริ่มเห็นปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างคุณค่าทางวัฒนธรรมและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในโลกที่กำลังเผชิญกับปัญหาโลกร้อน คุณค่าเชิงวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพนั้นแตกต่างกันไปตามบริบทพื้นที่ ชุมชน และปัจเจก ซึ่งทำให้เกิดโอกาสและอุปสรรคในการสร้างความยั่งยืนตามมา

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือการทำความเข้าใจคุณค่าทางการใช้สอยที่วัฒนธรรมกำหนดให้ความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ไม่ได้หมายความเพียงประโยชน์ใช้สอยเชิงวัตถุ แต่ยังหมายความถึงนิเวศบริการที่เกี่ยวข้องกับประเพณีและคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างลึกซึ้ง ยกตัวอย่างเช่นชุมชนชายฝั่งอาจกำหนดคุณค่าเชิงวัฒนธรรมให้แก่ต้นโกงกางว่าให้ทั้งเนื้อไม้ แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และแนวกั้นคลื่น ที่ทวีความสำคัญขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

อย่างไรก็ตาม การประเมินค่าความหลากหลายทางชีวภาพจากประโยชน์ใช้สอยแต่เพียงอย่างเดียวนั้นมีข้อจำกัด หลายวัฒนธรรมรับรองคุณค่าของความหลากหลายทางชีวภาพที่ลึกซึ้งกว่านั้น เป็นคุณค่าของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในตัวของมันเองโดยที่ไม่รอให้มนุษย์มาตัดสินด้วยประโยชน์ใช้สอย คุณค่าประเภทนี้มักซ่อนอยู่ในความเชื่อทางจิตวิญญาณและจริยธรรมที่บ่มเพาะขึ้นเพื่อให้มนุษย์มีความรับผิดชอบและปกป้องรักษาธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของพวกเราเอง ทว่าการคำนึงถึงทั้งประโยชน์ใช้สอยและประโยชน์ในตัวของมันเองในงานอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพอาจเป็นเรื่องยากเมื่อเป้าหมายทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมนั้นมักขัดแย้งกันอยู่เสมอ

เรื่องราวทางวัฒนธรรมส่งผลต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างไร?

เรื่องราวทางวัฒนธรรมเป็นเรื่องราวที่เราใช้เล่าให้ลูกหลานฟังเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตซึ่งส่งผลต่อความเข้าใจและการกระทำของเราต่อความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่องราวส่วนใหญ่ในสังคมตะวันตกมักโน้มเอียงไปในทางที่มองว่าธรรมชาติเป็นแหล่งทรัพยากรที่รอให้มนุษย์นำออกมาใช้ ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ แต่เรื่องราวที่เล่าขานโดยชนพื้นเมืองสอนเราถึงความสัมพันธ์แบบแลกเปลี่ยน ให้ความเคารพ และปกป้องรักษา

มุมมองเช่นนี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในยุคที่การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติสั่งสมมารุ่นต่อรุ่นให้ความรู้ที่สำคัญต่อการจัดการทรัพยากรและระบบนิเวศอย่างยั่งยืน และการรวมภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก็จะทำให้เราสามารถกำหนดกลยุทธ์การอนุรักษ์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพได้

การพิจารณาด้านจริยธรรม

เรื่องราวทางวัฒนธรรมสอนให้เรามีความรับผิดชอบทางจริยธรรมต่อความหลากหลายทางชีวภาพ วัฒนธรรมทั่วโลกต่างก็มีกรอบจริยธรรมของตัวเองเพื่อใช้เป็นแนวทางในการมีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติ ที่สามารถนำไปใช้กำหนดลำดับความสำคัญในงานอนุรักษ์ได้

ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ระบบภูมิปัญญาท้องถิ่นมีองค์ความรู้ล้ำค่าเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ การบริหารทรัพยากรอย่างยั่งยืน และการะบวนการด้านระบบนิเวศ การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในงานอนุรักษ์จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อวัฒนธรรม

นิเวศบริการ

เป็นนิเวศบริการที่นอกเหนือไปจากการกำหนดและให้บริการตามแบบอย่างในสังคมทั่วไป แต่ความหลากหลายทางชีวภาพให้บริการอย่างเช่นการพักผ่อนหย่อนใจ การฟื้นฟูจิตวิญญาณ และการชื่นชมทางสุนทรียะ ซึ่งมีระดับความลึกซึ้งที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม

นอกจากนี้โลกาภิวัตน์และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมยังเป็นตัวกำหนดคุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพ ในขณะที่บางครั้งโลกาภิวัตน์สามารถผสานตัวเองเข้ากับวัฒนธรรมและทำให้ประเพณีบางอย่างสูญหายไป แต่ก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ข้ามวัฒนธรรมและความเข้าใจธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป ความท้าทายได้แก่ทำอย่างไรจึงจะนำแต่ข้อดีของโลกาภิวัตน์มาใช้ในการสนับสนุนด้านจริยธรรมในงานอนุรักษ์โดยไม่กระทบต่อคุณค่าทางวัฒนธรรมพื้นเมืองของชุมชนท้องถิ่น

ตัวอย่างของคุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพ

สุนทรียศาสตร์ ได้แก่ศิลปะ ดนตรี วรรณกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ โดยความหลากหลายทางชีวภาพให้วิสัยทัศน์และสิ่งตอบสนองต่อสัมผัสของมนุษย์อย่างอุดม ทำให้มนุษย์สามารถรังสรรงานศิลปะได้

คุณค่าทางจิตวิญญาณ อย่างเช่นป่าศักดิ์สิทธิ์ เสาโทเท็ม และศาสนาเพแกน โดยมีพืช สัตว์ และระบบนิเวศเป็นตัวแทนนัยสำคัญของจิตวิญญาณซึ่งนำไปสู่พิธีปฏิบัติและจริยธรรมในการอนุรักษ์

คุณค่าด้านการใช้สอย เช่นประเพณีล่าสัตว์ ประมง และเก็บเกี่ยว โดยความหลากหลายทางชีวภาพให้ทรัพยากรที่จำเป็นต่อความอยู่รอดของชุมชนท้องถิ่น

คุณค้าด้านการรักษาโรคและอาการเจ็บป่วยเช่นการแพทย์แผนโบราณและสมุนไพรบำบัด โดยความหลากหลายทางชีวภาพมอบตัวยาทั้งจากพืชและสัตว์ให้

ระดับวิชาการ

ในระดับวิชาการนั้น คุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพกลายเป็นหัวข้อที่มีการศึกษากันอย่างกว้างขวางในสาขาวิชาต่างๆเช่นมานุษยวิทยา จริยธรรมสิ่งแวดล้อม เศรษฐศาสตร์ของระบบนิเวศ และจิตเวชฟื้นฟู สาขาวิชาการต่างๆเหล่านี้ยอมรับว่าความหลากหลายทางชีวภาพมิได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ทางชีววิทยาแต่เป็นการเกิดขึ้นของนิเวศสังคมที่มีส่วนทั้งกำหนดวัฒนธรรมและถูกกำหนดโดยวัฒนธรรมด้วย นักวิชาการต่างก็พยายามทดสอบสมมติฐานต่างๆเพื่อนำมากำหนดนโยบายและการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ

หนึ่งในสาขาวิชาที่ศึกษาหัวข้อนี้อย่างลึกซึ้งที่สุดได้แก่นิเวศบริการทางวัฒนธรรม (Cultural Ecosystem Services CES) CES ขยายขอบเขตนิเวศบริการแบบเดิมออกไปให้ครอบคลุมประโยชน์ของระบบนิเวศที่จับต้องไม่ได้ เช่นคุณค่าทางจิตวิญญาณ การพัฒนาด้านจิตใจ การพักผ่อนหย่อนใจ คุณค่าทางสุนทรียะ และสร้างอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม การกำหนดค่าของ CES เป็นตัวเลขเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็จำเป็นในการแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของความหลากหลายทางชีวภาพต่อคุณภาพชีวิตและบริบททางวัฒนธรรมของมนุษย์อย่างครบถ้วน งานวิจัยเชิงวิชาการแสดงให้เราเห็นว่าคุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพฝังรากลึกอยู่ในพลวัติทางอำนาจ ความไม่เท่าเทียมทางสังคม และการแข่งขันกันพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงระบบนิเวศทางการเมืองของคุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพว่าคุณค่าของใครที่สำคัญ และทำอย่างไรจึงจะเจรจาต่อรองและท้าทายกระบวนการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการจัดการทรัพยากรได้? บ่อยครั้งที่คุณค่าทางวัฒนธรรมของชุมชนชายขอบ ชนพื้นเมือง และชุมชนท้องถิ่นถูกด้อยค่าความสำคัญลงไปเพื่อเปิดทางให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจและผลประโยชน์ทางการเมือง และการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพอย่างมีประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้หากสิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่

บทบาทของวัฒนธรรมที่มีต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

ในขณะที่วัฒนธรรมสามารถเป็นพลังในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพได้ แต่วิถีปฏิบัติในบางวัฒนธรรมก็ทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งได้แก่การบริโภคอย่างไม่ยั่งยืนและบรรทัดฐานของสังคมที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเหนือความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และนักวิชาการต่างก็กำลังค้นหาแรงขับทางวัฒนธรรมที่ทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและหาทางปรับเปลี่ยนมันเสียใหม่ นอกจากนี้ มิติด้านจริยธรรมของคุณค่าทางวัฒนธรรมของความหลากหลายทางชีวภาพยังคงเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันในวงวิชาการ หัวข้ออย่างการเอามนุษย์เป็นศูนย์กลาง จริยธรรมแบบชีวภาพ สิทธิของธรรมชาติ ความเป็นธรรมในระหว่างรุ่น และสถานะทางศีลธรรมของสิ่งมีชีวิตที่มิใช่มนุษย์ เหล่านี้ก่อให้เกิดคำถามทางจริยธรรมที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความเข้าใจและความรับผิดชอบของเราต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นมาทั้งสิ้น ประเพณีและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันก็มีมุมมองที่แตกต่างเช่นกันในแง่ของความย้อนแย้งทางจริยธรรมและแนวทางการอนุรักษ์แบบเก่า ๆ เมื่อเรามองไปข้างหน้า งานวิจัยเชิงวิชาการมักมุ่งเน้นไปที่บทบาทของนวัตกรรมทางวัฒนธรรมและการเรียนรู้ทางสังคมในการบ่มเพาะการเปลี่ยนผ่านของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เราจะสามารถสร้างสมดุลระหว่างวัฒนธรรม การแสดงออกทางสุนทรียะ และวิถีพื้นบ้านเพื่อสร้างค่านิยมและพฤติกรรมการอนุรักษ์ได้อย่างไร ? และการศึกษา การสื่อสาร และการขับเคลื่อนทางสังคมจะมีส่วนช่วยให้วัฒนธรรมเปลี่ยนผ่านสู่ความตระหนักในคุณค่าของแนวทางอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนได้อย่างไร? เหล่านี้เป็นคำถามบางส่วนที่ต้องการคำตอบในสาขาวิชาที่กำลังวิวัฒน์อยู่นี้

Scroll to Top