THAI CLIMATE JUSTICE for All

นวัตกรรม 9 ข้อสู่ความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ

เขียนโดย Anna Huber
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2022
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
อ้างอิง Teaching About Climate Justice

ความเป็นธรรมทางภูมิอากาศตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่มีต่อชุมชนอย่างไม่เท่าเทียมกัน กล่าวคือชุมชนที่มิได้เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนกลับได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าผู้ก่อ ชุมชนชนผิวสีและชนพื้นเมืองในอเมริกาต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากไฟป่ามากกว่าชุมชนเมือง และอัตราการเสียชีวิตจากมลภาวะทางอากาศในชนผิวสีนั้นสูงกว่าคนผิวขาวถึงสามเท่า ส่วนอุทกภัยและพายุที่เกิดขึ้นในบราซิลเมื่อปี 2020 ก็กระทบกับคนยากจนมากที่สุด เมื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนแออัด

การกำหนดว่าใครคือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุดเริ่มทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆในชุมชน รัฐบาล หรือแม้แต่ภาคธุรกิจเองก็ตาม ในปี 2021 บริษัท Salesforce ประกาศลงทุนจำนวน 300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯเพื่อสนับสนุนความเป็นธรรมทางภูมิอากาศและฟื้นฟูระบบนิเวศ ในขณะที่กองทุน Bezos Earth Fund ของเจฟฟ์ เบโซ่สมทบอีก 300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และอีกสองสามสัปดาห์ต่อมาก็เกิดการประท้วงที่ COP26 โดยผู้คนประมาณ 120,000 คน ทำให้เป็นการประท้วงเพื่อความเป็นธรรมทางภูมิอากาศที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา

ในขณะที่ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงและความถี่มากขึ้น เราจึงต้องฟังเสียงจากผู้ที่ได้รับผลกระทบในเวทีประชุมนานาชาติทุกครั้ง และกลุ่มนวัตกรรมที่ชื่อ Climate Justice Challenge ก็ได้มองหาแนวทางแก้ปัญหาจากชุมชนที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ และ UpLink นวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนขึ้นไปบนอินเตอร์เน็ตช่วงที่มีการจัดประชุม COP26 พร้อมๆ กับนวัตกรรมจากบริษัทและโครงการต่างๆ อย่าง Salesforce, Alix Partners, Fundación Avina, Global Shapers Auckland, Global Shapers Port of Spain Hub, UNHCR, VillageCapital, Schwab Foundation, COVID Alliance for Social Entrepreneurs, และ Climate-KIC

หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณานวัตกรรมต่างๆที่ส่งกันเข้ามาแล้ว จึงได้เลือกนวัตกรรม 9 ข้อที่น่าสนใจมากที่สุดจาก 5 ทวีปทั่วโลก ซึ่งเป็นแนวทางที่ครอบคลุมทุกประเด็นนับตั้งแต่พลังงาน อาหาร ที่อยู่อาศัย การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม การศึกษา และการระดมทุน

ในเดือนต่อมา ผู้สรรสร้างนวัตกรรมทั้ง 9 นี้ก็สร้างโอกาสให้มีการเรียนรู้โครงการของกันและกัน โดยใช้เครือข่าย UpLink ในการประชุมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดย UpLink จะเป็นเครื่องมือที่ใช้เชื่อมโยงผู้สร้างนวัตกรรมทั้งหลายเพื่อการพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ผู้พัฒนานวัตกรรมเพื่อความเป็นธรรมทางภูมิอากาศ 9 รายนี้ได้แก่ :

  1. กองทุน Landscape Resilience Fund (LRF) ที่พัฒนาพื้นที่ยั่งยืนและระดมทุน Climate Finance แบบให้เปล่าสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมเพื่อการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ที่ดีขึ้นและการอบรมในหลักสูตรต่างๆเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อภาวะโลกร้อนให้แก่ตนเอง กองทุน LRF นี้ก่อตั้งขึ้นโดย Urs Dieterich ผู้ซึ่งต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนรุ่นใหม่ด้วยการระดมทุนที่สร้างสรรค์
  1. Climate Justice Observatory นำเอาแนวทางสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนมาใช้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นธรรม โมเดลภูมิอากาศ บทความ และบทวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ผู้อ่านติดตามประเด็นปัญหา ทำแผนที่ปัญหาเชิงท้องถิ่น และออกแบบแนวทางแก้ไขด้วย Crowd Sourcing ผู้ก่อตั้ง คุณ Susan Rimmer เป้นอดีตสมาชิกของ C20, Think20 และ W20 และเคยได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลทรงอิทธิพลด้านนโยบายเรื่องเพศในปี2018
  2. เครือข่าย Meli Bees Network ร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าในพื้นที่เสื่อมโทรมของป่าอเมซอนด้วยวิธี Regeneration อย่างการเลี้ยงผึ้งและวนเกษตรและสร้างความสัมพันธ์บนความเชื่อใจกันกับชาวบ้าน Meli ก่อตั้งโดย Ana Rosa de Lima ผู้ที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่อาศัยในพื้นที่และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เลวร้ายของป่ามากับตาตนเอง
  1. โครงการ Irri-Hub Ke สนับสนุนเกษตรกรรายย่อยในอาฟริกาใต้และตะวันออกเพื่อต่อสู้กับภัยแล้งโดยใช้ระบบชลประทานอัจฉริยะที่ทำงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และ IoT Solutions ที่ประกอบไปด้วยระบบเก็บกักและแจกจ่ายน้ำตามสภาพภูมิอากาศภายนอก หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Irri-Hub ได้แก่ Eric Onchonga ที่มุ่งเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรรายย่อยและขจัดความยากจนด้วยการใช้เทคโนโลยีชลประทานอัจฉริยะ
  2. โครงการ People’s Action for Rural Development (PsAfRD) เป็นโครงการเพื่อการฟื้นฟูป่าในปาปัวนิวกินีเพื่อดูดซับคาร์บอนและอนุรักษ์ป่าไปพร้อมกัน PsAfRD เชื่อมโยงองค์กรของคนรุ่นใหม่จำนวน 100 องค์กรและผู้ประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจำนวน 20,000 รายเข้าด้วยกันเพื่อฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศ โครงการ PsAfRD นี้นำโดย Joseph Pumai ผู้ที่สร้างโครงข่ายผู้ประกอบการเพื่อการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืนและอนุรักษ์ป่าและความหลากหลายทางชีวภาพไปพร้อมกัน
  3. โครงการ Lanforce Energy มุ่งช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นเข้าถึงพลังงานสะอาดและราคาถูกด้วยการผลิตและติดตั้งเครื่องปั่นขยะให้เป็นปุ๋ยชีวภาพด้วยเงินภาษี ดังนั้นจะทำให้ลดการตัดไม้ทำลายป่า มลภาวะทางอากาศ การใช้พลังงานฟอสซิล และปุ๋ยเคมี หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Lanforce Energy ได้แก่ Judith Marera ผู้ที่เชื่อว่าการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สตรีจะช่วยพัฒนาประเทศ Zimbabwe ได้
  4. โครงการ Health in Harmony (HiH) อุทิศตนเพื่อลดภาวะโลกร้อนด้วยการอนุรักษ์ป่าฝนด้วยองค์ความรู้ของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น เพราะตระหนักว่า แม้ว่าชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นจะได้รับผลกระทบหนักกว่าคนกลุ่มอื่น แต่ก็ถือกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาไว้ด้วยเช่นกัน การศึกษาองค์ความรู้ของคนเหล่านี้ทำให้ HiH สามารถฟื้นฟูความสมดุลให้แก่ป่าฝนและคุณภาพชีวิตของชุมชน HiH ก่อตั้งโดย Dr. Kinari Webb ที่มีวิสัยทัศน์ที่จะเชื่อมโยงสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะเข้าด้วยกันด้วยภูมิปัญญาของชนท้องถิ่น
  5. โครงการ OffGridBox เป็นโครงการที่ผลิตและติดตั้งเครื่องกรองน้ำพลังแสงอาทิตย์ในพื้นที่ห่างไกลที่คุณภาพน้ำใต้ดินเสื่อมโทรมลงจากภาวะโลกร้อน โดย OffGridBox จะสูบ กรอง และกระจายน้ำเข้าไร่นา เป็น Solution ที่แก้ไขได้ถึงสามปัญหา ได้แก่พลังงาน น้ำสะอาด และระบบชลประทาน Jodie Wu CEO ของ OffGridBox เป็นสมาชิกของ TEDGlobal Fellow ได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดโดย Bloomberg BusinessWeek และบุคคลทรงอิทธิพลของ Forbes
  6. โครงการ SFG Box เป็นโครงการที่ออกแบบและผลิตแปลงปลูกพืชผลทางการเกษตรที่สามารถรดน้ำตัวเองได้ด้วยการใช้แอปฯของตนเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นในอาฟริกาใต้ และกระตุ้นให้ผู้คนปลูกพืชผักกินเองด้วยการให้เทคโนโลยีการผลิตอาหารแบบ DIY และการอบรมการปลูกพืชผักสวนครัวและผลิตอาหารทางออนไลน์ โครงการนี้ก่อตั้งโดย Andrew Pott ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทรัพยากรน้ำและวิศวกรรม ที่ลงมือทำเองตั้งแต่การออกแบบระบบ การผลิต ควบคุมคุณภาพ วิจัยและอบรมผู้ใช้งาน
Scroll to Top