THAI CLIMATE JUSTICE for All

YCJA (Youth Climate Justice Advocate) Sandbox: First Meet – The Rising Young Leaders for Climate Action

เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา Thai Climate Justice for All นำโดยณัฐธิดา รัตนสวัสดิ์ (พี่กะติ๊บ) และคณะ ได้ชวนเยาวชนจากทั่วประเทศได้มารวมตัวกันเพื่อจุดประกายพลังการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ในกิจกรรม YCJA (Youth Climate Justice Advocate) Sandbox: First Meet – The Rising Young Leaders for Climate Action จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 27 เมษายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) โดยมีเยาวชน YCJA 2nd Gen เข้าร่วมทั้งหมด 16 คน

วันแรกของค่าย เราเริ่มต้นกิจกรรมให้น้อง ๆ ได้ทำความรู้จักกัน ต่อด้วยกิจกรรม “เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย” เช่น สิ่งแวดล้อมต้องมาก่อนเศรษฐกิจ ประชาชนทุกคนควรรับผิดชอบต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเท่า ๆ กัน ฯลฯ ใครเห็นด้วยยืนฝั่งขวา ไม่เห็นด้วยยืนฝั่งซ้าย เพื่อละลายพฤติกรรม กระตุ้นการคิด พร้อมบ่งชี้ระดับความเข้าใจเรื่อง Climate Justice ของแต่ละคน

จากนั้นให้น้อง ๆ ได้บอกเล่าความคาดหวังผ่านกระดาษ 4 ช่อง ก่อนเข้าสู่เนื้อหาหลักเรื่อง ‘การรู้จักตนเอง’ ผ่าน 3 ฐานเรียนรู้: หัว ใจ และกาย ต่อด้วย “ธรรมชาติหล่อหลอมตัวเรา” ในช่วงชีวิตของเราตั้งแต่วัยเด็กจนมาถึงปัจจุบัน มีสิ่งใดในธรรมชาติที่สัมพันธ์กับช่วงเวลานั้น แล้วมันส่งผลกับเราอย่างไร เพื่อให้ทุกคนได้ทบทวนตนเอง ย้อนนึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา

เราปิดท้ายครึ่งเช้ากันด้วย “สัตว์สี่ทิศ” อีกกิจกรรมที่น้อง ๆ ได้รู้จักตัวเองและเพื่อน โดยมีตัวแทนเป็นสัตว์ 4 ชนิด ได้แก่ อินทรีย์ หมี หนู และกระทิง ที่สะท้อนลักษณะนิสัยที่แตกต่างและเป็นคู่ตรงข้ามกัน

ปรากฏว่าในกิจกรรมนี้ น้อง ๆ ส่วนใหญ่ เลือกแทนตัวเองเป็นหมี ผู้มีนิสัยละเอียดรอบคอบ ชอบวางแผน และใช้เหตุผล ในขณะที่หนู ผู้มีนิสัยใส่ใจ และทำงานด้วยความรู้สึก มีเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น

สะท้อนให้เห็นว่า แม้เติบโตในบริบทสังคมและเทคโนโลยีต่างกัน แต่น้อง ๆ ยังสะท้อนค่านิยมร่วม ที่เน้นความมั่นคง ปลอดภัย และการวางแผนอย่างรอบคอบ ซึ่งอาจมาจากประสบการณ์ชีวิตหรือสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้น้อง ๆ เติบโตมาอย่างระมัดระวังมากขึ้น แตกต่างจาก First Gen ที่มีความหลากหลายในบุคลิกภาพมากกว่า

หลังพักกลางวันเนื้อหาเราเข้มข้นขึ้น กฤษฎา บุญชัย (พี่กบ) TCJA ได้เปิดประเด็นด้วยเนื้อหาความรู้เชิงวิชาการ “Climate Justice ในแบบของเรา” เพื่อสร้างความเข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ ความไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้แสดงความคิดเห็นว่าตัวเองประสบกับปัญหาหรือเห็นปัญหานี้เกิดขึ้นที่ไหน? อย่างไร?

อีกประเด็นที่ชวนน้อง ๆ คุย “กลุ่มคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังคือใคร” หลายคนได้ช่วยกันแสดงความเห็น และให้คำว่า คือ คนเปราะบาง คนไร้สัญชาติ สัตว์ป่า สัตว์อุตสาหกรรม กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มคนท้องถิ่น ข้าราชการตัวเล็ก คนทั่วไป และประเทศด้อยพัฒนา/กำลังพัฒนา

สะท้อนว่าน้อง ๆ มองเห็นความเหลื่อมล้ำอย่างลึกซึ้ง ไม่จำกัดแค่ในมิติของมนุษย์หรือเศรษฐกิจ แต่รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นและระบบนิเวศด้วย ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอย่างไม่เท่าเทียม

แสดงให้เห็นถึงความตระหนักรู้ในระดับโครงสร้าง และความเข้าใจในความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และระบบนโยบาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาแนวคิดเรื่องความเป็นธรรมอย่างรอบด้านในหมู่เยาวชน

จบจากเนื้อความรู้เราคั่นด้วย “Team Building Ice Break” กิจกรรมให้น้อง ๆ วาดภาพตามคนด้านหลัง ที่ได้โจทย์ต่างกัน 3 กลุ่ม เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีมด้วยบรรยากาศที่สนุกสนาน ก่อนเข้าสู่ “Advocacy Toolkits” จากหลักสูตร Advocacy 101 ซึ่งพัฒนาควบคู่กับโครงการ YCJA เพื่อให้น้อง ๆ เรียนรู้การรณรงค์อย่างอิสระและสร้างสรรค์

เพราะหลักสูตรนี้เน้น “เยาวชนเป็นศูนย์กลาง” นั่นคือ เยาวชนเป็นผู้มีความสามารถในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพียงแค่ผู้รับผลจากนโยบายหรือสถานการณ์ทางสังคมเท่านั้น เยาวชนสามารถเข้าใจกลไกการรณรงค์ การสื่อสารเชิงนโยบาย และการรวมพลัง เพื่อผลักดันประเด็นที่สนใจได้อย่างแหลมคม

ต่อมาให้น้อง ๆ ได้ลงมือกันอย่างจริงจังกับกระบวนการ “OD&MD” ที่น้อง ๆ ได้เรียนรู้ใน Zoom meeting ก่อนหน้านี้ โดยให้น้อง ๆ ได้ลองแบ่งหน้าที่ เป็น OD (One day director) เป็นคนคอยกำกับภาพรวมของงานใน 1 วัน และ MC (Master of Ceremony) ผู้ดูแลงานเฉพาะด้าน และมอบหมายงานให้กับ Jobber ทำงานต่าง ๆ เพื่อเป็นรากฐานให้การลงมือทำโครงการจริงในอนาคตของน้อง ๆ ซึ่งต้องผลิตออกมาในช่วงท้ายของโครงการ YCJA

กิจกรรมช่วงค่ำ ทุกคนได้มาร่วมวงกินขนม ดื่มน้ำหวาน และเล่นเกมคำต้องเชื่อมในประเด็นสิ่งแวดล้อมกัน เราเรียกช่วงนี้ว่า “ปาร์ตี้โลกร้อน” เพื่อให้ทุกคนสนิทกันมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงแฝงเรื่องสิ่งแวดล้อมไว้ด้วย และก่อนจะจบกิจกรรมของวันแรกนี้ ทั้งเราและน้อง ๆ ได้มานั่งล้อมวงแลกเปลี่ยนความรู้สึก เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนได้เปิดรับกันและกัน

กิจกรรมที่ตั้งใจให้แลกเปลี่ยนความรู้สึกของวัน กลับเปิดพื้นที่ให้น้อง ๆ เปิดใจถึงเรื่องราวลึกซึ้งที่เก็บไว้นานบรรยากาศจึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับใจทุกคนได้สื่อถึงกันอย่างแท้จริง ความเงียบในห้องไม่ได้ว่างเปล่า แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ถูกเก็บงำและค่อย ๆ ถูกคลี่ออกด้วยความไว้ใจ

วันแรกของการเรียนรู้จึงจบลงด้วยความรู้สึกอบอุ่น แน่นแฟ้น และมีพลัง พร้อมที่จะก้าวต่อไปด้วยหัวใจที่เชื่อมโยงกันมากขึ้นในวันพรุ่งนี้

เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนดูสนิทกันมากขึ้น นับเป็นหมุดหมายที่ดี เราได้คุณจามีกร อำนาจผูก (เบส) สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาเป็นวิทยากร

เริ่มต้นด้วยกิจกรรม “Grounding” ที่ชวนทุกคนออกมาที่สนามหญ้า มาอยู่กับตัวเองและเชื่อมโยงกับสรรพสิ่งรอบ ๆ ตัว ประมาณ 15 นาที ให้ทุกคนได้ทบทวนความรู้สึกและความคิดของตนเอง เตรียมพร้อมสำหรับเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ

ต่อมาเข้าสู่ “Civic Imagination” กิจกรรมที่ชวนน้อง ๆ จับกลุ่มวาดภาพวัตถุแห่งความทรงจำในวัยเด็ก และเติมพลังวิเศษให้กับสิ่งนั้น นำมาแลกเปลี่ยนกันในกลุ่ม และชวนเติมแต่งพลังวิเศษให้กับเพื่อนข้าง ๆ สุดท้ายให้จินตนาการถึงการนำพลังวิเศษเหล่านั้นไปสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสียงในประเด็นปัญหากลุ่มคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

คุณเบสได้โยนคำถาม “ทำไมถึงยังมีกลุ่มคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง?” เป็นโจทย์ให้น้อง ๆ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ร่วมกันวิเคราะห์ไปจนถึงรากลึกของปัญหา โดยใช้ Causal Layered Analysis (CLA) หรือการวิเคราะห์เหตุและผลแบบเป็นลำดับชั้น ผ่านโมเดลภูเขาน้ำแข็ง 4 ขั้น

เริ่มช่วงบ่าย คุณเบสชวนน้อง ๆ ทำ “Foresight” กิจกรรมการวิเคราะห์สัญญาณอนาคตโลกร้อน โดยกำหนดปัจจัยขับเคลื่อนประเด็นแกน X “เป็นธรรมกับไม่เป็นธรรม” และแกน Y “ทุนชุมชนกับทุนต่างชาติ” ที่น้อง ๆ 4 กลุ่มได้ร่วมกันคิด และนำมาออกแบบฉากทัศน์แห่งอนาคตร่วมกัน ผ่านการวาดภาพเปรียบเปรยที่จะทำให้เห็นการจัดการความเสี่ยง และมุมมองที่รอบด้าน 4 ฉากทัศน์

สุดท้ายคุณเบสได้เชื่อมโยงฉากทัศน์เหล่านี้กับกิจกรรมสัตว์สี่ทิศของวันแรก เรียกว่ากิจกรรม “Back casting” ให้น้อง ๆ ได้กำหนดการเดินทางของตัวเองภายใน 3 ปี 2569-2571 ว่าลักษณะนิสัยแบบอินทรีย์ หมี กระทิง และหนู ที่เป็นตัวแทนของน้อง ๆ จะทำอย่างไรและเมื่อไร เพื่อไม่ให้ไปถึงฉากทัศน์ที่ไม่ควรจะเป็น แต่จะนำไปถึงฉากทัศน์ที่ทุกคนคาดหวังไว้ได้

สองวันของการพบกันใน YCJA Sandbox First Meet ไม่เพียงได้มอบความรู้หรือทักษะใหม่ ๆ ให้กับเยาวชนเท่านั้น แต่ยังเกิดกระบวนการ “ตื่นรู้” ที่มีทั้งหัวใจ เหตุผล จินตนาการ และความฝันร่วมกันเป็นเครื่องมือ

กิจกรรมตลอดสองวันนี้จึงไม่ใช่แค่การอบรม แต่ยังปลูกเมล็ดพันธุ์ของความเปลี่ยนแปลงที่จะเติบโตกลายเป็น “ดาวแห่งความหวัง พลังคนรุ่นใหม่เพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ”

#ความเป็นธรรมสภาพภูมิอากาศ #climatejustice #โลกร้อน

Scroll to Top