THAI CLIMATE JUSTICE for All

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการสังเกตทรัพยากรใกล้ตัวเรา มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมไหม

กฤษฎา บุญชัย TCJA ได้รับเชิญจากเครือข่ายเยาวชน Global Youth Biodiversity Network (GYBN) ประเทศไทย ให้ไปให้ข้อมูล แลกเปลี่ยน เรียนรู้ กับกลุ่มเยาวชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ ในโปรแกรม LCOY ที่ ปัตตานี เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา

กฤษฎาได้ชวนน้อง ๆ คิดว่าปัญสิ่งแวดล้อมทั้งโลกร้อน ความหลากหลายทางชีวภาพเกิดจากสาเหตุอะไร การคิดจากการไม่แยกส่วนกับปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง แต่เป็นเหตุและผลของทุกปัญหา ไม่ใช่ปัญหาด้านวิทยาศาสตร์ หรือปัญหาเทคนิค ไม่ใช่แค่ปัญหาส่วนบุคคล (ไม่รู้ ไม่สำนึก ไม่มีทุน ฯลฯ) แต่ปัญหาโครงสร้าง (สภาพที่กำหนดปัญหา)

เป็นปัญหาซับซ้อน (ยากหาที่มา สาเหตุ ผลกระทบ ขอบเขต และแนวทางแก้ไขโดยง่าย) คือ ความอยู่รอดของโลก สรรพชีวิต และมนุษยชาติ

ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีการเปลี่ยนแปลง จากชายหาดเนียนขาวทอดยาวสมัยก่อน ทั้งฝั่งอ่าวไทยอันดามัน มีพื้นที่กัดเซาะมีปริมาณเพิ่มขึ้น น้ำทะเลหนุนสูงขึ้น ฤดูกาลการทำอาชีพของชาวประมงพื้นบ้านที่ติดริมฝั่งทะเล ส่งผลให้การใช้วิถีชีวิตของคนติดริมชายฝั่งเปลี่ยนไปส่งผลให้ทรัพยากรในท้องเลไม่มีชีวิต ทำให้ความหลากหลายทางชีววภาพใต้ท้องทะเลลดน้อยลง

การประกอบกิจการ ธุรกิจเสรี ที่ส่งผลกระทบทางทรัพยากรทางสิ่งแวดล้อม คนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจไม่ใช่เจ้าของธุรกิจ แต่เป็นผู้คนที่อยู่ในบริเวณที่ประกอบกิจการเสรีที่มาจากนักลงทุน หรือนโยบายการพัฒนาของรัฐบาล พื้นที่ที่ได้รับผลลกระทบจากกิจกรรมเหล่านี้แล้ว ยังไม่ได้มีการฟื้นฟูหรือได้รับการเยียยาอย่างจริงใจ

มนุษย์สมัย (Anthropocene) ที่มนุษย์เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนโลก เปลี่ยนธรรมชาติ แต่มนุษย์ทุกคน เปลี่ยนโลก เปลี่ยนธรรมชาติ เท่ากันทุกคนหรือ?

หรือเป็นเพราะเราอยู่ในยุคสมัยของทุนนิยม ที่เปลี่ยนธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ สินค้า ฯลฯ

วิวัฒนาการก่อเกิดความไม่เป็นธรรมก่อเกิดมาอย่างยาวนาน ทำให้มีกระบวนการขับเคลื่อนของภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ส่งเสียง เรียกร้อง สิทธิในการดำรงอยู่ซึ่งฐานทรัพยากรที่ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มทุน หรืือเพียงนโยบายการพัฒนาของรัฐบาลเท่านั้นที่จะมีสิทธิในการใช้ทรัพยากรเหล่านั้น ชุมชนหรือกลุ่มชายขอบ กลุ่มชาติพันธ์ กบุ่มประมง และกลุ่มคนที่อาศัยอยู่กับทรัพนากรธรรมชาติ มีสิทธิจัดการ ดูแล ฟื้นฟูทรัพยากร ได้เช่นเดียวกัน

เมื่อเข้าสู่ฤดูเพลิงและฝุ่นควัน เกิดจากเกษตรที่เพาะปลูก เพื่อแปรเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ จนระบาด มันคืออุตสาหกรรมปศุสัตว์ขนาดใหญ่ เกิดฝุ่นควัน เกิดไฟไหม้ป่า คือการทำภาคเกษตรเชิงเดี่ยวที่เป็นสาเหตุหลักทำลายนิเวศ และใช้สารเคมีรุนแรงไทยใช้สารเคมีเกษตรอันดับต้น ๆ ของโลก

ภาคเกษตรเชิงนิเวศ การทำไร่หมุนเวียน การทำเกษตรอินทรีย์ การดำเนินวิถีตามภูมิปัญญาท้องถิ่นและมีการดำเนินการปรับตัวต่อการฟื้นฟูและการปรับตัว การสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ จากการทำลายหน้าดินหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

วิวัฒนาการแย่งชิงฐานทรัพยากร มีต่อมาอย่างต่อเนื่อง พื้นที่น้ำขนาดใหญ่ ท่วมป่า เพราะเขื่อน

สร้างเขื่อนกลางงทุ่งป่าใหญ่ หลายสิบเขื่อนแม่น้ำโขง แม่น้ำโขงกำลังตาย

โดยไทยพึ่งพาชลประทานขนาดใหญ่ แต่มีระบบชลประทานจัดสรรน้ำทั่วประเทศได้แค่ 26% ทำให้

การสร้างเขื่อนเป็นสาเหตุสำคัญให้ป่าไม้ถูกทำลาย แม่น้ำ พันธุ์ปลาสูญพันธุ์

การสร้างเขื่อนกลายเป็นความขัดแย้งกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด

การสร้างเขื่อน และการทำลายสายน้ำ เป็นการร่วมือกันระหว่างกลุ่มทุนจีนและทุนไทย

เพื่อผลิตกระเเสไฟฟ้าในอุตสาหกรรม แต่เกษตกรที่ยังคงต้องพึ่งพาน้ำ ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากน้ำได้อย่างวิถีดั้งเดิมได้ เพราะการสร้างเขื่อน จะปิดกั้นสารอาหารที่มาต่อเลี้ยงการเจริญเติบโตของระบบบนิเวศ และยังตัดตะกอน สายน้ำในการเลี้ยงชีพผู้คนที่อาศัยอยู่ปลายน้ำ

มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

การเข้ามาของเรือประมงพาณิชญื

ประมงพาณิชย์ เครื่องมือทำลายล้าง ทำให้ปลาในอ่าวไทยและอันดามันกำลังหมดไป ล่าสุด ม.69 พรบ.ประมง ให้ใช้อวนตาถี่ล้อมจับได้ตอนกลางคืน ชุมชนประมงพื้นบ้านหวั่นทะเลตาย ออกมาคัดค้าน

ประมงพาณิชย์ กับการกวาดล้างทะเล และการปกป้องของประมงพื้นบ้าน

ป้อนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยการอำนวยสะดวกให้ทุนจีนเข้ามา SEC, EEC ทำให้กลุ่มทุนต่างชาติร่ำรวยมากขึ้น แต่ประชากรในประเทศไทย ต้องได้รับผลกระทบ

ชาวเกษตรปราจีนบุรี ออกมาเรียกร้อง เนื่องจากได้รับผลกระทบของการพัฒนาที่เรียกว่าอุตสาหกรรม

ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดปัญหาเลวร้ายลง ชุมชนที่จน เพราะไม่มีทรัพยากรดำรงชีพ ไม่สามารถปรับตัวกับภูมิอากาศแปรปรวนได้

การพัฒนา ทั้งการสร้างเมือง คมนาคม การเกษตร พลังงาน ฯลฯ ยิ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในด้านกลับกัน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่รองรับกับการเผชิญภัยพิบัติ

กระบวนการแลกเปลี่ยน น้อง ๆ สนใจแลกเปลี่ยนโดยทั้งเราถึงประสบการณ์ส่วนตัวและประสบการณ์ในชุมชนที่เผชิญผลกระทบสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพบรรยากาศในด้านต่าง ๆ โดยสนใจตั้งคำถาม แลกเปลี่ยนเรื่องความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศอย่างคึกคัก

นับเป็นความหวังที่น้องๆจะเติบโตเป็นพลเมืองรุ่นใหม่เพื่อปกป้องความสมดุลของนิเวศและความเป็นธรรมสังคมสภาพภูมิอากาศและสังคมต่อไปยังมีความหวัง โดย TCJA จะร่วมกับ GBYN รายการขับเคลื่อนเยาวชนรุ่นใหม่ต่อไป

ไครียะห์ ระหมันยะ รายงาน
#thaiclimatejusticeforall

Scroll to Top