THAI CLIMATE JUSTICE for All

นโยบาย Degrowth แก้ปัญหาโลกร้อนได้

เผยแพร่โดย Innovation News Network
วันที่ 12 ธันวาคม 2022
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
ภาพประกอบโดย iStock/Petmal

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยบาร์เซโลน่าระบุว่านโยบาย Degrowth จะเป็นนโยบายที่มีประสิทธิภาพในการต้อสู้กับภาวะโลกร้อนและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และตอบสนองความต้องการและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ไปในขณะเดียวกัน

ทีมงานซึ่งประกอบด้วย Jason Hickel กับ Giorgis Kallis จากสถาบันสิ่งแวดล้อมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยบาร์เซโลน่า ได้ให้คำแนะนำว่าชุดนโยบาย Degrowth จะทำให้รัฐบาลสามารถสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยไม่ต้องพึ่งพาการเติบโตอย่างไม่สิ้นสุดดังที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึงหลักประกันสุขภาพ การจ้างงาน รายได้ การศึกษา และการเคหะแบบถ้วนหน้า นอกจากนี้ยังได้กำหนดแนวทาง 5 แนวทางที่จะช่วยร่างนโยบายที่จะทำให้การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจเป็นไปด้วยความราบรื่นและเป็นธรรม ในบทความเรื่อง ‘Degrowth can work – here’s how science can help,’ ได้กำหนดกรอบนโยบายที่จะช่วยให้ประเทศพัฒนาแล้วลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อนที่ไม่เกิดผลกระทบทางสังคมมากนัก

การเติบโตทางเศรษฐกิจมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร

วิกฤติสิ่งแวดล้อมเกิดจากอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของมนุษย์ ชนชั้นร่ำรวยและภาคธุรกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีส่วนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้เป็นอย่างสูง เพราะบริโภคทรัพยากรและพลังงานอย่างไม่คำนึงถึงความยั่งยืนมาโดยตลอด และนโยบาย Degrowth เป็นทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มนี้ให้อยู่ในระดับต่ำ

ศาสตราจารย์ Hickel หัวหน้าทีมวิจัยดังกล่าวระบุว่า “ระบบเศรษฐกิจที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการสะสมทุนมากกว่าความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ ผลที่ตามมาก็คือเราใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินความจำเป็นไปมากแต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของคนทุกคนได้ กล่าวคือเรากำลังทำให้ทั้งมนุษยชาติและธรรมชาติผิดหวัง”

Degrowth แก้ปัญหาโลกร้อนได้อย่างไร?

นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่านโยบาย Degrowth จะเป็นนโยบายที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาโลกร้อนได้ และเสนอให้ประเทศพัฒนาแล้วยกเลิกระบบที่ต้องเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและหันมาตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์แทน โดยการลดการผลิต ดีมานด์ และอำนาจการซื้อของคนรวยที่ไม่จำเป็นลง นโยบาย Degrowth นี้จะทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงอย่างรวดเร็วและหยุดกิจกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อมลงได้มาก ศาสตราจารย์ Hickel กล่าวว่า “สมมติฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันได้แก่ทุก Sector จะต้องโตขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าเราจะต้องการมันหรือไม่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเอาเลยในขณะที่ระบบนิเวศกำลังสูญสลายไป ดังนั้นเราควรหันมาจำกัดการผลิตในสิ่งที่จำเป็นจริงๆสำหรับสังคมและสิ่งแวดล้อมเช่นระบบสุขภาพถ้วนหน้า การเคหะราคาถูก ระบบขนส่งมวลชน และพลังงานสะอาด และลดการผลิตสินค้าอย่างรถนั่งส่วนบุคคล สินค้าแฟชั่น และอุตสาหกรรมปศุสัตว์”

มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่านโยบาย Degrowth เช่นนี้ช่วยให้ประเทศที่ต้องการสามารถยกโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ระบบที่ไม่พึ่งพาการเติบโตได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ไม่ชัดเจนได้แก่เรื่องที่ระบบกับสถาบันยังต้องพึ่งพาการเติบโตเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ งานวิจัยใหม่นี้จะช่วยให้เราระบุลักษณะการพึ่งพาและหาทางแก้ปัญหานี้ได้ ศาสตราจารย์ Julia Steinberger แห่งมหาวิทยาลัยโลซานน์และนักวิจัยร่วมในโครงการอธิบายว่า “ระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ไม่มีการเติบโตเป็นเรื่องที่เสี่ยงเหมือนกัน ทั้งต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นงานวิจัยนโยบาย Degrowth จึงประกอบไปด้วยทางเลือกที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21”

สุดท้ายทีมนักวิจัยสรุปว่า Degrowth คือกลยุทธ์ที่จะสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจและตอบสนองเป้าหมายทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนที่ระบบเดิมที่ก่อให้เกิดภาวะถดถอยอยู่เนืองๆและก่อให้เกิดความไม่มั่นคงทางสังคมและการเมือง


อ้างอิง : https://www.innovationnewsnetwork.com/economic-degrowth-policies-will-be-effective-in-fighting-climate-change/28215/?fbclid=IwAR33APnH-2CZCNr4XkQx-RjjbAeCpOYhbMUErcmM6_90ypnwN1werqE3US0

Scroll to Top