THAI CLIMATE JUSTICE for All

Social Share

เผยแพร่โดย The Guardian
วันที่ 2 เมษายน 2023
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
ภาพประกอบโดย Carl de Souza/AFP/Getty
อ้างอิง https://www.theguardian.com/…/the-guardian-view-on…

1. บทนำ

ตลาดชดเชยคาร์บอนนั้นทั้งสับสนวุ่นวายและใช้การไม่ได้ มีแต่ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน ผลการสำรวจโดย The Guardian ร่วมกับ Die Zeit สื่อรายสัปดาห์ของเยอรมนี และ SourceMaterial พบว่าในเดือนมกราคมมีคาร์บอนเครดิตที่รับรองโดยสถาบันกำหนดมาตรฐานชั้นนำไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีทางสิ่งแวดล้อมตามที่โครงการผู้ผลิตเครดิตได้กล่าวอ้าง จากการสำรวจครั้งนั้นเป็นต้นมาก็เริ่มมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับกลไกชดเชยคาร์บอนและสืบสวนถึงต้นตอปัญหากันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการของนายทุนชาติตะวันตกขนาดใหญ่อย่างโครงการอนุรักษ์ป่าฝนเขตร้อนชื้น Kariba ในประเทศซิมบับเว

เมื่อตระหนักว่าจะต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นของสาธารณชนกลับคืนมา มิฉะนั้นตลาดคาร์บอนก็จะเผชิญความเสี่ยงต่อการที่จะล้มอย่างที่เคยล้มมาแล้วครั้งหนึ่ง คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจจึงได้ออกประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะใช้กฎเกณฑ์ใหม่บังคับใช้สำหรับผู้ผลิตคาร์บอนเครดิตภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะเพิ่มกระบวนการตรวจสอบกลไกการอ้างเครดิตของลูกค้าโดยบุคคลที่สาม ในขณะที่แนวทางการแก้ปัญหาเช่นนี้จะยังไม่ตอบโจทย์ความกังวลของสาธารณชน ความเปราะบางของตลาดจึงยังไม่หมดไป นักสิ่งแวดล้อมหลายคนต้องการให้รัฐบาลของตนตรวจสอบการโอนเงินลงทุนจากประเทศพัฒนาแล้วแก่ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อจ้างให้อนุรักษ์ป่าและเก็บกักคาร์บอน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กลไกตลาดเสรีมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

ตามที่สถาบันกำหนดมาตรฐานการชดเชยคาร์บอน รับรองคาร์บอนเครดิตให้แก่บริษัทอย่าง Disney และ Shell โครงการผลิตคาร์บอนเครดิตของอเมริกาอย่าง Verra ก็กำลังตออยู่ในที่นั่งลำบาก เมื่อเดือนที่ผ่านมา Verra ประกาศว่าจะใช้โครงการใหม่มาแทนที่โครงการเดิมภายเดือนกรกฎาคมปี 2025 แต่ก็ยังพูดปกป้องกระบวนการที่ใช้อยู่ว่าเป็นวิธีการที่ “ดีที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน” ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีลูกค้ารายใดของ Verra บ้างที่จะยังซื้อเครดิตของโครงการต่อหลังจากนี้

ความอันตรายที่สำคัญของคาร์บอนเครดิตที่ผู้คัดค้านยกขึ้นมาใช้ต่อต้านเป็นประจำได้แก่การที่กลไกชดเชยในปัจจุบันมักทำให้เกิดการฟอกเขียว อุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิลนอกจากจะหนึ่งในกลุ่มลูกค้าที่สำคัญของ Verra แล้ว ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอีกด้วย การที่รับรองให้บริษัทเหล่านี้อ้างตัวเองหรือสินค้าและบริการของตนว่าเป็น “carbon neutral” จึงมิได้เป็นเพียงการให้ข้อมูลที่ผิด แต่เป็นอันตรายอีกด้วย เสมือนว่าอนุญาตให้อุตสาหกรรมก่อมลภาวะต่อไป เป็นการส่งสัญญาณว่าประชาชนไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคแบบเสรีตะวันตก

นอกจากนี้ยังพบหลักฐานว่านอกจากกลไกชดเชยคาร์บอนจะไม่สนับสนุนบทบาทของชนพื้นเมืองในการอนุรักษ์ป่าแล้ว ยังทำในสิ่งตรงกันข้ามคือต่อต้านเสียอีก หัวหน้าชุมชนได้ร้องเรียนเกี่ยวกับ “โจรสลัดคาร์บอน” ที่ปรากฏตัวขึ้นในที่ห่างไกลและเสนอเงินก้อนโตให้แก่ชาวบ้านในการร่วมโครงการ

อย่างไรก็ตามยังมีโครงการก็ประสบความสำเร็จในด้านการอนุรักษ์ทุน ถ้าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่า 2 พันล้านดอลล่าร์จะยอมเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาด้วยการสร้างความโปร่งใสและซื่อสัตย์ ก็จะนำไปสู่โครงการที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นและผลักดันโครงการที่ฟอกเขียวออกไปจากตลาด ถ้าตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจล้ม สังคมโลกก็จะต้องหากลไกมาทดแทนเพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงปารีสต่อไป กล่าวคือป่าไม้ที่มีชีวิต มีประโยชน์ต่อมนุษย์มากกว่าป่าไม้ที่ตายแล้ว และเราไม่สามารถซื้อขายหรือชดเชยภาวะโลกร้อนได้เพราะทรัพยากรบนโลกใบนี้มีจำกัด (จบ)


Social Share