THAI CLIMATE JUSTICE for All

ถึงเวลาที่เราต้องหันมาเอาใจใส่ปัญหาการฟอกเขียวกันได้แล้ว (ตอนที่ 2)

เขียนโดย คณะผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านข้อตกลง Net Zero ที่เกี่ยวกับภาคเอกชน
เผยแพร่ใน INTEGRITY MATTERS: NET ZERO COMMITMENTS BY BUSINESSES, FINANCIAL INSTITUTIONS, CITIES AND REGIONS
วันที่เผยแพร่ 18 พฤศจิกายน 2022
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
ภาพประกอบโดย คณะผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านข้อตกลง Net Zero ที่เกี่ยวกับภาคเอกชน

สารจาก ฯพณฯ ท่าน Catherine McKenna Shane Coffield
ประธานคณะผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านข้อตกลง Net Zero ที่เกี่ยวกับภาคเอกชน

นอกจากนี้ รายงานของเรายังพูดถึงความกังวลของประชาชน ผู้บริโภค นักสิ่งแวดล้อม และนักลงทุนที่มีต่อการใช้ข้อตกลง

net zero เพื่อการฟอกเขียว เราจึงขอแนะนำว่า:

• ห้ามมิให้ภาคเอกชนอ้างว่าองค์กรบรรลุเป้าหมาย Net zero ในขณะที่ยังสร้างหรือลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับผลิตพลังงานฟอสซิล ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเผาไหม้ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 70% ของปริมาณทั้งหมด และ Net Zero ไม่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนในพลังงานฟอสซิล เช่นเดียวกับกิจกรรมทำลายสิ่งแวดล้อมอื่นๆอย่างการตัดไม้ทำลายป่า เป็นต้น

• ห้ามมิให้ภาคเอกชนซื้อคาร์บอนเครดิตแทนการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เป็นรูปธรรมในกระบวนการผลิตของตน ดังแนวทางที่ตลาดคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจที่มีมาตรฐานสูงได้ให้ไว้ว่าผู้ซื้อจะนำคาร์บอนเครดิตมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีการลดก๊าซอย่างจริงจังเพื่อรักษาระดับอุณหภูมิผิวโลกมิให้สูงขึ้นอีกเกิน 1.5°C เสียก่อน ร่วมกับการเพิ่มทุนในพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่นช่วยลดปริมาณคาร์บอนในประเทศกำลังพัฒนา

• ห้ามมิให้ภาคเอกชนลดความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อย แทนการลดการปล่อยก๊าซที่แท้จริง หรือรายงานปริมาณก๊าซเพียงบางส่วนแทนการรายงานปริมาณก๊าซที่เกิดจากทั้งกระบวนการผลิต

• ห้ามมิให้ภาคเอกชนล้อบบี้หรือบ่อนทำลายนโยบายของรัฐด้านการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือผ่านทางสมาคมการค้าหรือสถาบันอื่นใด แต่จะต้องปรับโครงสร้างการบริหารและกลยุทธ์ทางธุรกิจของตนให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐ ซึ่งรวมถึงการวางแผนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย Net zero และเชื่อมโยงค่าตอบแทนผู้บริหารเข้ากับผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม

• เพื่อขจัดการฟอกเขียวอย่างมีประสิทธิภาพ ภาคเอกชนจะต้องอยู่ภายใต้การบังคับใช้ของกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net zero แทนการเลือกที่จะทำหรือไม่ทำโดยความสมัครใจ แม้ว่าการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายในตลาดคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจนั้นจะเป็นเรื่องที่ยากก็ตาม บริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ยังไม่ได้ให้คำมั่นเกี่ยวกับ Net zero ทำให้เกิดข้อกังวลด้านการแข่งขันขึ้น สถานการณ์นี้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รัฐต่างๆจึงต้องออกกฎหมายบังคับให้ภาคเอกชนบรรลุเป้าหมาย Net Zero และรายงานความก้าวหน้าประจำปีเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปนี้

ประการต่อมา รายงานของเรายังเน้นว่าการปฏิรูปโครงสร้างไปสู่ Net Zero นั้นต้องการข้อตกลงในรูปแบบใหม่สำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่สามารถรับประกันการเปลี่ยนแปลงที่ยุติธรรม โปร่งใส และแหล่งทรัพยากรที่ต้องการเพื่อบรรลุเป้าหมาย ซึ่งสถาบันการเงินและบรรษัทข้ามชาติต่างๆจะต้องร่วมมือกับรัฐและธนาคารเพื่อการพัฒนา ในการเพิ่มทุนในภาคพลังงานสะอาดและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และกล้าที่จะรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเพื่อเป้าหมายที่สูงขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้เรายังให้การรับรองศักยภาพของภาคเอกชนอย่างกว้างขวาง แม้ว่าข้อแนะนำของเราจะมุ่งเน้นไปที่บรรษัทข้ามชาติขนาดยักษ์ สถาบันการเงิน และรัฐ แต่ธุรกิจขนาดเล็กก็มีส่วนช่วยได้มากเช่นกัน แต่พวกเขาจะต้องได้รับการสนับสนุนและการช่วยเหลือเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของข้อแนะนำของเรา

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศโลกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานชุมชนแห่งประเทศแคนาดา ข้าพเจ้าได้เห็นศักยภาพของบริษัทเอกชนและสถาบันการเงินที่สามารถเร่งกระบวนการแก้ปัญหาโลกร้อนด้วยการสนับสนุนรัฐบาลของตน ประเทศแคนาดาประสบความสำเร็จมากในการกำหนดราคากลางคาร์บอนโดยทดลองใช้ในพื้นที่หลายจังหวัด บริษัทรายใหญ่ของแคนาดาในทุกภาคอุตสาหกรรมสนับสนุนราคากลางคาร์บอนอย่างเปิดเผย ก่อนหน้านี้ไม่นาน กลุ่มผู้นำในภาคส่วนต่างได้สร้าง ‘Ambition Loop’ ที่ก่อให้เกิดอิทธิพลเป็นอย่างสูงเมื่อภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน และวันนี้ เราต้องการ Ambition Loop สำหรับ Net Zero ที่ซึ่งจะเร่งกระบวนการแก้ไขปัญหาโลกร้อนให้เร็วขึ้น

ข้าพเจ้าขอขอบคุณเลขาธิการสหประชาชาติที่เชื่อมั่นและมอบหมายงานสำคัญให้แก่ทีมงานของเราและความพยายามของท่านในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย และข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณต่อสมาชิกคณะผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านข้อตกลง Net Zero ที่เกี่ยวกับภาคเอกชนทั้ง 16 ท่านที่รับหน้าที่นี้ด้วยความสำนึกในความเร่งด่วนของปัญหา ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และวิสัยทัศน์ของท่านทั้งหลายมีคุณค่าอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำนักเลขาธิการสหประชาชาติและทีมงาน Climate and Nature Solutions ที่ให้การสนับสนุนคณะผู้เชี่ยวชาญของเราเป็นอย่างดีตลอดมา และที่จะลืมเสียมิได้ ได้แก่กลุ่มสตรีและเด็กที่นำชุมชนทั่วโลกเคลื่อนไหวด้านประเด็นโลกร้อนและให้แรงบันดาลใจแก่เราให้เจริญรอยตาม

สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในทศวรรษหน้าจะเป็นเครื่องตัดสินอนาคตของเรา และผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องลงมือแก้ไขปัญหาเสียตั้งแต่ตอนนี้ และชักชวนให้ภาคเอกชน สถาบันการเงิน และนักลงทุน เข้าร่วมในข้อตกลง Net Zero ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม ผู้นำทุกภาคส่วนจะต้องร่วมขับเคลื่อนเพื่อการบรรลุเป้าหมาย Net Zero มีภาคเอกชนมากมายที่ริเริ่มลงมือทำไปแล้วและเราสามารถเรียนรู้จากพวกเขาได้ พวกเขาต้องการอนาคตที่สะอาดและเข้าใจความเร่งด่วนของปัญหาโลกร้อนที่ต้องได้รับการแก้ไข นอกจากนี้พวกเขายังสร้างโอกาสในการทำรายได้นับพันล้านดอลล่าร์ในการเปลี่ยนแปลงนี้อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องยากเลยที่ธุรกิจอื่นๆจะหันมาทำตาม

เมื่อยังเล็กข้าพเจ้าเคยเป็นนักว่ายน้ำ สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากการแข่งขันว่ายน้ำได้แก่ถ้าต้องการชนะให้ตั้งเป้าไว้ให้สูงเกินกว่าที่ทำได้ และว่ายไปจนกว่าจะถึงเป้า แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากแต่ถ้าเรามีความทะเยอทะยานและตั้งใจจริง เราจะสามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ภายในปี 2050 และสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ลูกหลานรุ่นต่อๆไปของเรา

จบสารจากฯพณฯ ท่าน Catherine McKenna Shane Coffield

Scroll to Top