เผยแพร่โดย Friends of the Earth
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2018
แปลและเรียบเรียงโดย ปิโยรส ปานยงค์
แคมเปญ Big Ask คือข้อพิสูจน์ว่าพลังของประชาชนสามารถเปลี่ยนโลกได้ ต้องขอบคุณนักรณรงค์และประชาชนทุกคนที่มีส่วนร่วมที่ทำให้รัฐบาลอังกฤษบังคับใช้กฎหมายภูมิอากาศหรือ Climate Change Act เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
แคมเปญของเราเรียกร้องให้มีกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนที่สาเหตุ ได้แก่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยกำหนดให้รัฐบาลลดการปล่อยก๊าซลงร้อยละ 3 ทุกปี หรือเท่ากับร้อยละ 80 ภายในปี 2050
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริษัทพลังงาน คนมีชื่อเสียง สส. และประชาชนทั่วไปต่างเข้าร่วมการรณรงค์ในครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับให้มีการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงจนถึงระดับที่ภาวะโลกร้อนจะไม่ส่งผลกระทบ
ประชาชนกว่า 200,000 คนได้เรียกร้องให้สส.ของพวกเขาสนับสนุนกฎหมายนี้ ส่วนชุมชนท้องถิ่นก็จัดกิจกรรมรณรงค์ต่างๆเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนและสนับสนุนแคมเปญของพวกเขา
รวมกันเราชนะ
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2006 สมเด็จพระราชินีนาถทรงประกาศใช้ Climate Change Act ซึ่งเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของประชาชน แต่เราจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ กฎหมายฉบับนี้ยังไม่เข้มแข็งพอที่จะรับรองว่าสหราชอาณาจักรจะมีส่วนร่วมในการรักษาระดับอุณหภูมิผิวโลกไว้อย่างเพียงพอ ดังนั้นเราจึงดำเนินการณรงค์ต่อไป ซึ่งนำไปสู่คำมั่นของรัฐบาลที่จะจัดสรรงบประมาณเพื่อการนี้เป็นเวลา 5 ปีงบประมาณ และรวมเอาอุตสาหกรรมการบินและการเดินเรือเข้าไว้ใน Climate Change Act นี้ด้วย ทำให้ Climate Change Act เป็นโมเดลที่นานาประเทศทั่วโลกนำไปใช้เป็นต้นแบบสำหรับกฎหมายภายในประเทศของตนต่อไป
สู่ระดับนานาชาติ
ไม่เพียงเท่านั้น ในปี 2008 แคมเปญ Big Ask ยังแพร่หลายไปใน 17 ประเทศในยุโรป เรียกร้องให้รัฐบาลของตนลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกๆปี
หลังจาก 3 ปี 6 เดือนของการรณรงค์ ในเดือนตุลาคมปี 2008 รัฐสภาอังกฤษลงมติประกาศรับรองกฎหมาย Climate Change Act ที่เป็นก้าวสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
และเมื่อเร็วๆนี้ความตกลงปารีสก็ได้กำหนดเป้าหมาย 1.5°C หลังจากที่อุณหภูมิผิวโลกสูงขึ้นมาอีก 1°C ซึ่งแต่ละองศาที่เพิ่มขึ้นหมายถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น กฎหมาย Climate Change Act จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงวิกฤตินี้ได้ แต่เราจะต้องลงมือปฏิบัติอย่างรวดเร็วและจริงจัง
กฎหมาย Climate Change Act นี้ทำให้เกิด :
• การลดก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อยร้อยละ 80 ภายในปี 2050
• การตรวจสอบความก้าวหน้าโดยรัฐสภาอังกฤษ
• ด้านนโยบาย เราได้คณะกรรมการด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศคอยให้คำแนะนำแก่รัฐบาลเกี่ยวกับเป้าหมายการลดก๊าซและความก้าวหน้า
• แนวทางแก้ไข เราได้แนวทางที่ชัดเจนที่ทำให้ภาคธุรกิจมั่นใจที่จะลงทุนในพลังงานสะอาด
การเมืองเปลี่ยนแปลงด้วยน้ำมือประชาชน
แคมเปญ Big Ask ของ Friends of the Earth ทำให้เราได้เห็นประชาชนจำนวนมากเรียกร้องให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหล่าคนมีชื่อเสียง ภาคธุรกิจ มูลนิธิ และคนทั่วไปต่างก็สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ โดยผู้คนเกือบ 200,000 คนได้เรียกร้องผ่านทางสส.ของตนโดยตรงด้วยช่องทางอีเมล จดหมาย สื่อสังคมออนไลน์ หรือแม้แต่เข้าพบด้วยตนเอง กฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากทุกภาคส่วน เพราะเมื่อเราพูด รัฐบาลจะต้องฟัง ภายใน 3 ปีเราจึงสามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองได้สำเร็จ
ประวัติของ the Big Ask
ต่อไปนี้เป็นประวัติคร่าวๆของแคมเปญ Big Ask ของ Friends of the Earth เป็นแคมเปญที่ผลักดันกันมานานและไม่อาจสำเร็จได้หากขาดการสนับสนุนจากประชาชน
7 เมษายน 2005 | ร่างกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เราได้ร่างกฎหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลต้องลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 3 ในทุกๆปี หรือเท่ากับร้อยละ 80 ภายในปี 2050 และผลักดันเข้าที่ประชุมรัฐสภาผ่านทางสส.
ประวัติของ the Big Ask
ต่อไปนี้เป็นประวัติคร่าวๆของแคมเปญ Big Ask ของ Friends of the Earth เป็นแคมเปญที่ผลักดันกันมานานและไม่อาจสำเร็จได้หากขาดการสนับสนุนจากประชาชน
7 เมษายน 2005 | ร่างกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
เราได้ร่างกฎหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งที่ขอให้รัฐบาลลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 3 ในทุกๆปี หรือเท่ากับร้อยละ 80 ภายในปี 2050 และผลักดันร่างนี้เข้าที่ประชุมรัฐสภาผ่านทางสส.
25 พฤษภาคม 2005 | เริ่มปล่อยแคมเปญ The Big Ask
• Thom Yorke นักร้องนำวง Radiohead ร่วมมือกับเราปล่อยแคมเปญ
• ยื่นคำร้องขอกฎหมายด้านภูมิอากาศต่อรัฐสภาผ่านช่องทาง Parliamentary Petition (Early Day Motion 178) ให้ “ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 3 ในทุกๆปี”
• Thom Yorke ยืนเคียงข้างป้ายประชาสัมพันธ์ของ Friends of the Earth ความว่า “รัฐบาลของเราพยายามแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างสุดความสามารถแล้วหรือยัง?”
13 กรกฎาคม 2005 | สร้างแนวร่วม Stop Climate Chaos
สมาชิก Friends of the Earth ช่วยก่อตั้งแนวร่วม Stop Climate Chaos เพื่อเรียกร้องให้มีกฎหมายบังคับภาคอุตสาหกรรมให้ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
1 พฤษภาคม 2006 | จัดคอนเสิร์ต Big Ask Live
Thom Yorke นักร้องนำวง Radiohead กับ Jonny Greenwood ร่วมกับ Gruff Rhys นักร้องนำวง Super Furry Animals กับ Kate Rusby นักร้องโฟลค์ซอง จัดคอนเสิร์ต The Big Ask Live ที่ KOKO club ในลอนดอน มีผู้เข้าร่วมชมกว่าหนึ่งพันคน ทั้งแฟนเพลง คนมีชื่อเสียง และนักการเมือง แฟนจำนวนมากต้องรอถึง 11 ชั่วโมงกว่าที่ Simon Amstell จะเปิดการแสดง
ในเวลาเดียวกัน งานอีเว้นท์ต่างๆในลอนดอนต่างก็ช่วยกันโปรโมทแคมเปญนี้
ในขณะที่แสดงคอนเสิร์ต มี infographic เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนฉายขึ้นจอเป็นระยะๆเพื่อเตือนผู้ชมเกี่ยวกับอันตรายของภาวะโลกร้อนและวิธีการแก้ไข และชักชวนให้ลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้
และในท้ายที่สุด ช่วงเวลาที่สำคัญของแฟนๆ Radiohead ก็มาถึงเมื่อ Thom Yorke กับ Jonny Greenwood เริมคอนเสิร์ตด้วยเพลงฮิต Karma Police จากอัลบั้ม OK Computer
1 กันยายน 2006 | นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษสนับสนุนแคมเปญ
• เดวิด คาเมรอนร่วมสนับสนุนแคมเปญและเรียกร้องให้บรรจุกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวาระถัดไปของการตรัสเปิดประชุมสภาโดยสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
• The Conservatives เสนอร่างและเผยแพร่กฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของตนเอง
15 กันยายน 2006 | ปล่อยแคมเปญ Big Ask Big Lobby ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่สส.
นาย Tony Juniper ผู้อำนวยการของ Friends of the Earth แถลงการณ์ร่วมกับนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษในงานแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมเรียกร้องให้บรรจุกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวาระถัดไปของการตรัสเปิดประชุมสภาโดยสมเด็จพระบรมราชินีนาถในวันที่ 1 กันยายน 2006
หลังจากหนึ่งเดือนของการล็อบบี้ สส.ต่างก็รับปากที่จะเรียกร้องสภาให้มีกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เข้มแข็ง
15 กันยายน 2006 | เขียนแผนที่นำทางเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
Friends of the Earth ร่วมมือกับธนาคาร Coop Bank เพื่อให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยเรื่องภาวะโลกร้อนโดย Tyndall Centre for Climate Change Research ที่มุ่งเน้นการศึกษาวิจัยเรื่องงบประมาณคาร์บอนของประเทศอังกฤษ แนวทางที่รัฐบาลควรดำเนินการ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศจากการประกาศใช้นโยบายของรัฐ
12 ตุลาคม 2006 | สัญญาณบ่อบอกถึงการบังคับใช้กฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
• นาย David Miliband รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมชี้ว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อน
• และด้วยคะแนนเสียง 412 ต่อ 646 คณะรัฐมนตรีได้ลงนามในมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการลงนามครั้งหนึ่งในจำนวนเพียงสามครั้งที่มีได้เสียงสนับสนุนจากสส.เกิน 400 เสียง
15 พฤศจิกายน 2006 | ประกาศใช้กฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
• รัฐบาลบรรจุวาระเรื่องการประกาศใช้กฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในสาสน์จากสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
• รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับนโยบายพลังงานในระยะยาว
• สมเด็จพระบรมราชินีนาถเปิดประชุมสภาในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2006
13 มีนาคม 2007 | ร่างกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รัฐบาลประกาศกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ Friends of the Earth ตอบรับด้วยความพอใจแต่ติงว่าต้องมีการบังคับใช้ที่เข้มแข็งด้วย
4 กรกฎาคม 2007 | ปล่อยคลิป The Big Ask ทางช่องทางออนไลน์
เราปล่อยคลิปเดินขบวนโดย The Big Ask ทางช่องทางออนไลน์เพื่อให้ผู้ที่สนับสนุนแคมเปญแชร์คลิปวิดีโอให้แก่สส.ของตนเอง มีดาราชื่อดังอย่าง Jude Law, James Blunt และ Johnny Borrell แห่งวง Razorlight ร่วมเดินขบวน
24 กันยายน 2007 | นายกรัฐมนตรีคนใหม่สั่งตรวจสอบเป้าหมายด้านโลกร้อน
• ผู้สนับสนุนส่งภาพแคมเปญของ The Big Ask ทางช่องทางออนไลน์แก่สส.ของตนเพื่อผลักดันให้สนับสนุนแคมเปญกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
• Gordon Brown นายกรัฐมนตรีคนใหม่ประกาศว่าเขาได้สั่งให้คณะกรรมการสภาพภูมิอากาศตรวจสอบว่าควรจะเพิ่มเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกในกฎหมายฉบับนี้เป็นร้อยละ 80 หรือไม่
• สส. 119 คนรวมถึง David Miliband, David Cameron, Sir Menzies Campbell, และ Ken Livingstone เข้าร่วมพบปะประชาชนและงานสัมมนาเรื่องกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
29 ตุลาคม 2007 | รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมถามถึงการปล่อยก๊าซในภาคธุรกิจการบินและการเดินเรือ
Hilary Benn กล่าวว่าเขาจะสอบถามคณะกรรมการสภาพภูมิอากาศว่ากฎหมายใหม่นี้ควรบังคับใช้กับธุรกิจการบินและการเดินเรือด้วยหรือไม่
14 พฤศจิกายน 2007 | Bill debated in the Lords
สภาสูงอภิปรายกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นครั้งแรก
18 กุมภาพันธ์ 2008 | บรรลุข้อตกลงเรื่องเป้าหมายประจำปี
Hilary Benn ประกาศว่ากฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะประกอบด้วยเป้าหมายการลดก๊าซประจำปีและได้ตั้งงบประมาณไว้ 5 ปีเพื่อรักษาปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไว้ในระดับที่ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าสหราชอาณาจักรจะมุ่งสู่เป้าหมายระยะยาวได้โดยไม่เบี่ยงเบน
27 กุมภาพันธ์ 2008 | แคมเปญ The Big Ask สู่ยุโรป
เราได้ปล่อยแคมเปญ The Big Ask ใน 17 ประเทศทั่วยุโรป เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศเหล่านี้ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลงในทุกๆปี
27 พฤษภาคม 2008 | วง Razorlight กดดันธุรกิจการบินและการเดินเรือ
วง Razorlight เล่นดนตรีโชว์หน้าเครื่องบินในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์หนึ่งครั้ง โดยมีเหล่าสส.จากทั้งสองพรรคตั้งวงเฉพาะกิจชื่อ The Aviators ขึ้นและร่วมร้องเพลง
9 มิถุนายน 2008 | สส.พรรคแรงงานเรียกร้องให้ใช้กฎหมายที่เข้มแข็งกว่านี้
หลังจากที่กฎหมายผ่านการพิจารณาโดยสภาล่าง สส.กว่า 80 คนขอให้เพิ่มเป้าหมายการลดก๊าซเป็นร้อยละ 80 ภายในปี 2050 และรวมเอาธุรกิจการบินและการเดินเรือเข้าไว้ภายใต้กฎหมายนี้ด้วย
23 กันยายน 2008 | นายกรัฐมนตรี Gordon Brown ขอรายงานเป้าหมายร้อยละ 80
นาย Gordon Brown กล่าวว่าเขาได้ขอคำตอบไปยังคณะกรรมการสภาพภูมิอากาศภายในเดือนตุลาคมนี้ว่าเป้าหมายการลดก๊าซควรปรับเป็นร้อยละ 80 หรือไม่
7 ตุลาคม 2008 | คณะกรรมการขอให้ปรับเป้าหมายลดก๊าซเป็นร้อยละ 80 ภายในปี 2050
คณะกรรมการสภาพภูมิอากาศแนะนำให้ตั้งเป้าหมายลดก๊าซใหม่เป็นร้อยละ 80 ซึ่งรวมถึงธุรกิจการบินและการเดินเรือด้วย สส.พรรคแรงงานจำนวน 68 คนลงนามในข้อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการ
16 ตุลาคม 2008 | ปรับเป้าหมายลดก๊าซจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 80
รัฐมนตรี Ed Miliband ให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลจะปรับเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 80 นับเป็นชัยชนะอีกครั้งหนึ่งของประชาชน
27 ตุลาคม 2008 | รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายกับธุรกิจการบินและการเดินเรือ
ภายใต้แรงกดดันจากสส.และประชาชน รัฐบาลจึงประกาศว่าจะบังคับใช้กฎหมายนี้กับธุรกิจการบินและการเดินเรือด้วย ณ จุดนี้กฎหมายใหม่นี้ตอบสนองข้อเรียกร้องสามประการทั้งหมดของเราแล้ว
28 ตุลาคม 2008 | สส.ยกมือสนับสนุนกฎหมาย
สส.ยกมือสนับสนุนกฎหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่บังคับให้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 80 ภายในปี 2050 โดยรวมทุกภาคส่วนของประเทศ เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคน
Credit : Friends of the Earth